บันทึกประจำวัน “ช่วงเวลาที่หายไปในภาวะสงครามของพี่ชาย”
เช้านี้ผมกับปาปาไปส่งพี่ชายเข้าเป็นนักเรียนใหม่ของศูนย์การเรียนรู้แห่งหนึ่งที่ชายแดน ผมเพิ่งรู้ว่าพี่ ซอ โกลแกวทู เป็นญาติของผม ปู่ของพี่เป็นพี่ชายของปู่ผม พี่แกวทูเดินทางมาไกลมากจากบ้านที่เลอโด่ เขตญองเลบิ่นในประเทศพม่า ผมเคยไปเยี่ยมญาติ ๆ ที่พม่าเมื่อ 4 ปี ที่แล้ว จำได้ว่าเราต้องเดินทางผ่านเมืองพะอัน บีลิน และอีกหลายเมืองกว่าจะถึงที่หมาย ที่ผมจำได้ดีคือ มันไกลจนผมเมารถปวดหัว
พี่เล่าให้ผมฟังระหว่างที่เรานั่งรถกันอยู่ว่า “พี่ไม่ได้เรียนหนังสือมาสามปีแล้ว ตั้งแต่มีโควิดและการสู้รบ มีทหารมาตั้งป้อมปืนใหญ่ในหมู่บ้าน โรงเรียนในชุมชนไม่เปิด ตอนนี้แม้แต่การออกไปนอกบ้านก็ไม่ปลอดภัย” พี่เล่าว่าถ้าได้เรียนอีกครั้ง พี่อยากจะเรียนวิชาภาษาอังกฤษ ถ้าโรงเรียนเปิดและได้เรียนต่อเนื่อง ตอนนี้พี่ก็จะเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยชั้นปีที่ 1 แล้ว พี่แกวทูอายุ 17 ปี แต่ตอนนี้พี่ต้องเริ่มต้นเรียนที่ชั้นปีที่ 9 (ม.3) ใหม่
เราเดินทางมาถึงหอพักของพี่ ห้องพักเต็มไปด้วยนักเรียนคนอื่น ๆ พื้นที่นอนดูแคบเพราะมีนักเรียนหอจำนวนมาก พี่มีเพียงมุ้งกับพื้นที่ตั้งเตียงนอนเล็ก ๆ คุณครูผู้ดูแลหอพูดว่า “เราต้องต่อเตียงนอน ทำเตียงสองชั้น เพราะนักเรียนปีนี้เยอะมาก” ผมคิดว่านักเรียนคงเยอะมากจริง ๆ เพราะที่ระเบียงมีผ้าตากอยู่แน่น รองเท้าก็เรียงเต็มพื้นตรงทางเข้าด้วย
ช่วงเวลา 3 ปีที่พี่ไม่ได้เรียน เท่ากับ 3 ปีของการทำบ้านเรียน (homeschool) ของผม โควิดและสงครามทำให้พี่ต้องหยุดการเรียน ผมคิดว่าน่าจะมีเด็กนักเรียนอีกมากที่ไม่ได้เรียนเลยตั้งแต่มีโควิดจนถึงตอนนี้ที่มีสงครามในประเทศพม่า สำหรับพี่แกวทูและนักเรียนที่เดินทางมาถึงศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้เพื่อเริ่มต้นการเรียนใหม่ได้อย่างปลอดภัยน่าจะเป็นส่วนน้อยเท่านั้น
วันพุธ ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ.2565
ด.ช.โปโป