ถ้อยแถลง
เพื่อนไร้พรมแดนมีความยินดีที่รัฐไทยได้เปิดช่องทางอนุญาตให้ผู้ลี้ภัยกว่า 3000 คนจากจังหวัดมื่อตรอ รัฐกะเหรี่ยง ได้เข้ามาหลบภัยสงครามในเขต อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน
เนื่องจากสถานการณ์การสู้รบในจังหวัดมื่อตรอยังดำเนินอยู่อย่างเข้มข้น มีการโจมตีทางอากาศอีกในตลอดคืนวันที่ 28 มี.ค.ถึงเช้ามืด จึงมีความเป็นไปได้ว่าผู้ลี้ภัยกลุ่มนี้ จะต้องอาศัยหลบภัยในประเทศไทยไปอีกระยะหนึ่ง
เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เมื่อหน่วยงานความมั่นคงท้องถิ่นสามารถจัดการรองรับผู้ลี้ภัยเบื้องต้นได้แล้ว จะได้ดำเนินการประสานงานกับ UNHCR และองค์กรมนุษยธรรมซึ่งมีสำนักงานอยู่ในท้องถิ่น ซึ่งมีประสบการณ์ด้านงานมนุษยธรรมมายาวนาน และได้ให้ความช่วยเหลือต่อศูนย์พักพิงผู้ลี้ภัยแม่ละอูนในเขตอ.แม่สะเรียงอยู่แล้ว ให้เข้ามาแบ่งเบาภาระรัฐไทยในการให้ความช่วยเหลือ โดยวางมาตรการป้องกันโควิด 19 ร่วมกับสาธารณสุขท้องถิ่น (แม้ผู้ลี้ภัยซึ่งมาจากชุมชนบนพื้นที่สูงในรัฐกะเหรี่ยงกลุ่มนี้จะมีความเสี่ยงที่จะมีเชื้อโควิด 19 ต่ำมากก็ตาม)
นอกจากนี้ ภาคประชาสังคมไทยรวมถึงคนท้องถิ่นที่มีความปรารถนาดี ควรได้รับอนุญาตให้เข้าถึงผู้ลี้ภัยด้วยเช่นกัน ผ่านระบบการจัดการที่ดีและเป็นมิตร เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโควิด 19 เพื่อความปลอดภัยของผู้ลี้ภัย และเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนซึ่งเป็นเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียง
ในระยะต่อไป สำหรับการพิจารณาว่าสถานการณ์ดีขึ้นพร้อมที่จะให้ผู้ลี้ภัยกลับคืนถิ่นฐานนั้น การกลับคืนถิ่นฐานนั้นจะต้องเป็นไปตามความสมัครใจและสมศักดิ์ศรี โดยมี UNHCR หน่วยงานมหาดไทย และภาคประชาสังคมท้องถิ่นเป็นพยานในความสมัครใจ ในกรณีมีผู้ไม่สมัครใจกลับเนื่องจากมีความเสี่ยงใด รัฐไทยจะต้องอนุญาตให้ UNHCR ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย ดำเนินการคัดกรองผู้ที่เสี่ยงภัยต่อการประหัตประหารหากถูกส่งกลับประเทศ เพื่อดำเนินการให้ความคุ้มครองสากลต่อไป
29 มีนาคม 2564
ภาพประกอบจาก Karen Women’s Organization
หมายเหตุ
กรุณาแสดงความคิดเห็นบนพื้นฐานการเคารพในเสรีภาพ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และระมัดระวัง “ความผิดฐานหมิ่นประมาท” ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ประมวลกฎหมายอาญา ฯลฯ