Nowhere to Run ผู้ลี้ภัยขอข้ามพรมแดนเข้าประเทศไทยแล้ว
คืนนี้ ความหวาดผวาของชาวบ้านในมื่อตรอเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว มีข่าวว่าเครื่องบินรบจะมาถล่มพื้นที่อย่างหนัก หลังจากที่วันนี้ทั้งวัน มีทั้งการทิ้งระเบิดจากเครื่องบินรบและใช้เฮลิคอปเตอร์กราดยิง ความพยายามที่จะหลบซ่อนอยู่ในป่าจนกว่าจะไม่มีที่ไปได้รับคำตอบแล้วว่า พวกเขาไม่มีที่ให้หนีอีกต่อไป
ขณะที่มีรายงานการหนีข้ามแม่น้ำสาละวินมาขอพึ่งพาประชาชนไทยเป็นที่พึ่งสุดท้ายหลายจุดนับจากเมื่อวานจนถึงค่ำวันนี้ ณ วินาทีนี้เรายังไม่สามารถสรุปพื้นที่และจำนวนคนได้แน่ชัดทั้งหมด หากแต่จะขอยืนยันในฐานะประชาชนไทยว่า
รัฐไทยจะต้องปฏิบัติตามที่ผวจ.แม่ฮ่องสอนได้ให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อวานนี้ (27 เม.ย.) ต่อการรับผู้ลี้ภัยเข้าพักในประเทศไทย การดูแลตามหลักมนุษยธรรม และการถ่ายโอนความรับผิดชอบจากทหารมาเป็นจังหวัด ซึ่งจะทำงานร่วมกับองค์กรเอกชน
ทั้งนี้ รัฐไทยจะต้องมีความตรงไปตรงมาในเรื่องตัวเลขผู้ลี้ภัย และไม่ผลักดันกลับไปสู่อันตราย หรือในขณะที่ชาวบ้านยังคง “มีความหวาดกลัวอันมีมูลเหตุที่พิสูจน์ได้”
เราขอยืนยันข้อเรียกร้อง 5 ข้อตามแถลงการณ์ 5 เมษายน ซึ่งลงนามโดย 62 องค์กรภาคประชาสังคมและบุคคล 344 คน กล่าวคือ
1. รัฐจะต้องไม่ปฏิเสธการขอเข้าลี้ภัย หน่วยงานความมั่นคงจะต้องเปิดให้ผู้ลี้ภัยเข้าพักหลบภัยในประเทศไทยตามหลักมนุษยธรรมและสิทธิมนุษยชน ในพื้นที่พักพิงชั่วคราวที่จัดไว้ตามที่ได้แถลงข่าวแก่สื่อมวลชนไว้ก่อนหน้า
2. เมื่อหน่วยงานความมั่นคงเปิดรับให้ผู้ลี้ภัยเข้าสู่พื้นที่พักพิงฯแล้ว ก็จะต้องมอบความรับผิดชอบในการจัดการดูแลให้ความคุ้มครองแก่กระทรวงมหาดไทย ซึ่งจะได้ประสานกับหน่วยงานสาธารณสุขท้องถิ่นให้มีบทบาทนำในด้านงานควบคุมโรค และองค์กรมนุษยธรรมซึ่งมีประสบการณ์และความพร้อมในด้านงบประมาณให้ดำเนินการสนับสนุน
3. รัฐจะต้องไม่ปิดกั้น หากควรอำนวยความสะดวกให้แก่ภาคประชาชนไทยที่ประสงค์จะช่วยเหลือผู้ลี้ภัย การสนับสนุนความสัมพันธ์ระหว่างภาคประชาชนของทั้งสองประเทศ คือการส่งเสริมความมั่นคงของประเทศในระยะยาว
4. ในกรณีที่มีการหลั่งไหลเข้ามาของกลุ่มผู้ลี้ภัยจากพื้นที่ที่เชื่อได้ว่าจะมีผู้หลบหนีการประหัตประหารจากในเมืองรวมอยู่ด้วย รัฐจะต้องอนุญาตให้สำนักข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) สามารถเข้าถึงผู้ลี้ภัยกลุ่มดังกล่าว และสามารถใช้กลไกคณะกรรมการพิจารณาคัดกรองผู้ได้รับความคุ้มครอง ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการคัดกรองคนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรและไม่สามารถเดินทางกลับประเทศอันเป็นภูมิลำเนาได้ พ.ศ. 2562 เพื่อคัดกรองผู้ที่ต้องการความคุ้มครองเป็นการเฉพาะ เนื่องจากบุคคลเหล่านี้อาจยังไม่สามารถกลับคืนถิ่นฐานพร้อมกับชาวบ้านที่อยู่ในชุมชนชายแดนได้
5. การตัดสินใจที่จะอำนวยความสะดวกให้ผู้ลี้ภัยกลุ่มใดหรือบุคคลใดกลับคืนถิ่นฐาน จะต้องเป็นบทบาทร่วมของหน่วยงานที่ให้ความคุ้มครองดูแลผู้ลี้ภัย มิใช่บทบาทของฝ่ายความมั่นคงแต่เพียงฝ่ายเดียว
ในฐานะประชาชนไทยที่ถือว่าผู้ลี้ภัยคือเพื่อนบ้านของเรา เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ในครั้งนี้ รัฐไทยจะดำเนินการตามหลักสิทธิมนุษยชนและหลักมนุษยธรรม เพราะการรักษาไว้ซึ่งมนุษยธรรมและการเคารพสิทธิมนุษยชนคือความมั่นคงของชาติและประชาชนอย่างแท้จริง
28 เมษายน 2564
ภาพประกอบ : ผู้พลัดถิ่นในมื่อตรอ ถ่ายภาพโดยชาวบ้านสาละวิน และแผนที่แสดงให้เห็นบริเวณที่เครื่องบินโจมตีวันนี้
หมายเหตุ
กรุณาแสดงความคิดเห็นบนพื้นฐานการเคารพในเสรีภาพ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และระมัดระวัง “ความผิดฐานหมิ่นประมาท” ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ประมวลกฎหมายอาญา ฯลฯ