เตรียมหลบภัย
ตลอด 3-4 เดือนที่ผ่านมา นับจากผู้ลี้ภัยชาวกะเหรี่ยงที่เข้ามาพักในสบเมยและแม่สะเรียงได้ข้ามน้ำสาละวินกลับไป ไม่มีวันใดเลยที่จะเรียกได้ว่า มีความสงบในจังหวัดมื่อตรอ
ทว่า การปะทะ การยิงปืนใหญ่เข้าหมู่บ้าน การเผาหมู่บ้าน การลาดตระเวนและจับชาวบ้านหรือยิงชาวบ้าน มักเกิดขึ้นในบริเวณไม่ห่างจากตัวเมืองผาปูน ซึ่งอยู่ลึกเข้าไปจากพื้นที่ใกล้ชายแดนไทย ที่ยังมีผู้พลัดถิ่นซึ่งเคยถูกโจมตีทางอากาศและด้วยปืนใหญ่เมื่อต้นปี
สิงหาคม กองทัพพม่าส่งกำลังพลและกำลังสนับสนุนจาก BGF เข้าสู่เกือบทุกเขต KNU ทั้งจ.มื่อตรอ หรือที่รู้จักกันในนามพื้นที่ในความดูแลของกองพล 5 และเขตกองพลที่ 1 (ดูตาทู/ตะโถ่ง), 2 (ตองอู) และ 3 (เคล่อลุยทู/นองเลบิน) จนกระทั่งมาถึงเขตกองพลที่ 6 (ดูปลายา/กอกะเร็ก) กับ 7 (พะอัน) เมื่อล่าสุด
การปะทะกันในจ.ดูปลายา (กองพล 6) รุนแรงมากขึ้น เมื่อกองทัพพม่าต้องการจัดการกับกองกำลังป้องกันตนเองของประชาชน (PDF) ซึ่งอยู่ในความคุ้มครองของ KNU เช่นเดียวกับนักกิจกรรมทางการเมืองที่หลบหนีการปราบปรามมาจากเขตเมืองมาอยู่ในจ.พะอัน เมื่อสัปดาห์ก่อน มีการสุ่มระดมยิงปืนใหญ่กว่า 50 ครั้งในดูปลายา ทำให้ชาวบ้านต้องหลบหนีออกมาแอบซ่อน และต้องอยู่กันอย่างขวัญผวา
สัญญาณอันตรายที่สุด คือเฮลิคอปเตอร์สอดแนมที่บินไปทั่วบริเวณ ทั้งในดูปลายาและมื่อตรอ ชาวบ้านที่เคยเผชิญกับการบินสอดแนมเช่นนี้มาก่อนที่จะมีการโจมตีทางอากาศช่วงมี.ค.-พ.ค.ย่อมรู้ดีว่า นี่ถึงเวลาที่จะต้องเตรียมตัวหลบภัย หลายคนเก็บข้าวของเตรียมใจไว้ล่วงหน้าก่อนที่ผู้นำท้องถิ่นจะแจ้งเตือนเสียด้วยซ้ำ
ไม่มีใครรู้ว่าการโจมตีทางอากาศครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นเมื่อใด แต่ที่แน่ ๆ กองทัพพม่าเตรียมขยายศึกสงครามภาคพื้นดินแล้วอย่างกว้างขวาง อีกเพียง 2 เดือนฝนคงจะซา และเมื่อผืนดินเริ่มแห้ง การโจมตีมักจะหนักหน่วง ความหวังของชาวบ้านที่จะเก็บเกี่ยวผลผลิตจากไร่ข้าวได้ทันเวลาก่อนจะต้องหลบลี้หนีภัยอีกครั้งจะเป็นจริงได้หรือไม่ และถ้าพวกเขาต้องสูญเสียมันไปอีกครั้ง สถานการณ์คงโหดร้ายยิ่งนัก
30 สิงหาคม 2564
ภาพประกอบ : แม่ลูกจากจ.มื่อตรอ ถ่ายโดย ชาวบ้านสาละวิน