ผู้ลี้ภัยกับการเข้าเมืองโดย “ไม่มีเอกสารเดินทางอันถูกต้อง”
เป็นที่น่ายินดี ที่สังคมไทยให้ความสนใจกับกรณีมิสแกรนด์เมียนมาถูกจับ หรือกักตัวอยู่ที่ตม.สุวรรณภูมิ หลายคนออกมาแสดงความไม่เห็นด้วย ที่ผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่ได้ทำอะไรผิดเลยจะต้องตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะถูกส่งตัวไปสู่อันตรายในมือกองทัพพม่า
รายงานข่าวกล่าวว่าว่า เนื่องด้วย ฮัน เล เคยกล่าวสุนทรพจน์บนเวทีประกวด ประกาศจุดยืนต่อต้านรัฐประหารและเรียกร้องประชาธิปไตย พาสปอร์ตพม่าของเธอจึงน่าจะถูกรัฐบาลพม่ายกเลิก อีกทั้งเจ้าหน้าที่ตม.ยังให้ข้อมูลว่า เธอเป็นบุคคลต้องห้ามเข้าประเทศตามหมายแดงของตำรวจสากล
โชคดีที่ ฮัน เล เป็นคนมีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักของสังคมไทยและใครต่อใคร เธอจึงสามารถเข้าถึงการคุ้มครองระหว่างประเทศโดย UNHCR และคาดว่าจะมีโอกาสได้เดินทางไปประเทศที่สามได้อย่างรวดเร็ว
ทว่า ในเมืองชายแดนไทย ยังมีผู้ลี้ภัยการเมืองอีกมากมายหลายพันคน ที่ก็มีความหาญกล้าในการยืนหยัดต่อต้านรัฐประหารไม่ต่างกับฮันเล มีผู้หญิงอีกจำนวนมากที่สง่างามไม่แพ้เธอในยามที่ประกาศจุดยืนในการเรียกร้องประชาธิปไตยและสิทธิเสรีภาพให้กับประชาชนชาวพม่า หากพวกเขาไม่ได้เป็นที่รู้จัก การดำรงอยู่ในเมืองไทยเป็นไปอย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ เมื่อถูกจับ ก็ไม่ได้รับความช่วยเหลือจาก UNHCR และสิ่งเดียวที่จะทำให้ไม่ต้องถูกส่งตัวไปถึงมือกองทัพพม่า ก็คือเงิน
การจับกุมมิสแกรนด์เมียนมาไม่เพียงแต่จะคือการยืนยันว่า แม้จะผ่านมากว่าปี รัฐบาลไทยยังไม่มีนโยบายชัดเจนว่าจะปฏิบัติกับผู้ลี้ภัยทางการเมืองพม่าทั้งที่เข้ามาด้วยพาสปอร์ตหรือข้ามน้ำข้ามเขามาอย่างไร แต่ยังคือการยืนยันว่า การเป็นผู้ลี้ภัยที่เข้าเมืองมาโดยไม่มีเอกสารการเข้าเมืองถูกต้อง ก็ไม่ได้หมายความว่า พวกเขาเป็นอาชญากร
หากการไม่มีเอกสารเดินทางถูกต้องมีเหตุมาจากความหาญกล้าต่อต้านอำนาจผู้ก่อรัฐประหาร ผู้ลี้ภัยอีกหลายพันคนก็ควรได้รับความห่วงใยและเคารพ ดังเช่นกรณีมิสแกรนด์เมียนมา ฮัน เล เช่นกัน
22 กันยายน 2565