ผู้พลัดถิ่นกะเรนนีที่ริมขอบแดนไทย
เมื่อการคุกคามของกองทัพพม่า ได้รับการตอบโต้จากประชาชนในฐานะกองกำลังป้องกันตนเอง (KPDF) และนำไปสู่การระดมกำลังทหาร การยิงปืนใหญ่เข้าชุมชน โบสถ์คาธอลิค โรงเรียน รวมถึงการกราดยิงจากเฮลิคอปเตอร์และเครื่องบินรบ รายงานข่าวล่าสุดระบุว่า ผู้พลัดถิ่นในรัฐกะเรนนีได้เพิ่มจำนวนถึงแสน ในขณะที่ประชากรรัฐเล็ก ๆ นี้มีจำนวนเพียง 300,000-400,000 คนเท่านั้น
ผู้พลัดถิ่นในรัฐกะเรนนี ซึ่งเป็นชาวกะยาห์ กะยอ กะยัง ปะโอ ปะกู (ปกาเกอะญอ) ฯลฯ กำลังถูกปิดล้อมให้อดอยาก การส่งมอบความช่วยเหลือต้องใช้วิธีแบกของเดินดอยและเสี่ยงอันตราย ล่าสุด มีรายงานข่าวว่า ชาวบ้านที่หลบซ่อนอยู่ในป่าอำเภอเดมอโซ ก็ถูกยิงเสียชีวิตเมื่อพยายามแอบกลับเข้าไปเอาข้าวสารที่บ้านของตน
ค่ายพักผู้พลัดถิ่นดอโน่กู่ ภายใต้ความคุ้มครองของพรคค KNPP ใกล้ชายแดนไทย เดิมเป็นสถานที่รองรับนักกิจกรรม นักการเมือง เยาวชนขบวนการ CDM โดยมีโซนกักตัวผู้มาใหม่เพื่อป้องกันการแพร่กระจายโควิด 19
ล่าสุด เริ่มมีชาวบ้านอุ้มลูกจูงหลานพาครอบครัวหนีมาอยู่ร่วมด้วยจนเริ่มแออัดขึ้น ดังเช่นวานนี้ ที่มีครอบครัวกะเรนนี ซึ่งสามารถหลบเลี่ยงสนามรบและหน่วยลาดตระเวนพม่ามาถึงชายแดนจนได้กว่าร้อยคน
พวกเขายังไม่ได้รับอนุญาตให้ข้ามเส้นพรมแดนเข้ามาประเทศไทย ซึ่งอยู่ห่างออกไปในระยะเดินเท้าเพียงราว 15 นาที โดยพื้นที่ซึ่งทราบกันว่ามีการหมายตาไว้เพื่อรองรับผู้ลี้ภัยใหม่ (holding areas) 3 แห่ง ก็อยู่ห่างออกไปอีกราว 4-5 ชั่วโมงเดินเท้า
ตั้งแต่สองสัปดาห์ก่อน โดรนสอดแนมของกองทัพพม่าเริ่มมาบินเหนือพื้นที่ดอโน่กู่แล้ว เราจึงหวังว่า เมื่อถึงวันหนึ่ง ซึ่งชาวบ้านกะเรนนีมีความจำเป็นจะต้องขอข้ามเส้นพรมแดนมาหลบภัยในประเทศไทย วันนั้น ทางการไทย ณ อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอนเปิดรับผู้ลี้ภัยให้ได้เข้ามาพักอาศัยในพื้นที่ที่เหมาะสม ภายใต้การจัดการดูแลของจังหวัด ซึ่งจะประสานช่องทางความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม ตามแผนเผชิญเหตุ ที่มีการหารือร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และ UNHCR มาแล้วก่อนหน้า
หากวันหนึ่งที่เรามีผู้ลี้ภัยกะเรนนีกลุ่มใหม่ เราจะต้องทำความเข้าใจใหม่ว่า พวกเขาลี้ภัยเพราะพวกเขาหมดหนทางจะเสี่ยงเอาชีวิตรอดอยู่ภายในบ้านเกิดเมืองนอนของตน ไม่มีใครลี้ภัยเพราะต้องการจะ “อยู่ไม่ยอมกลับ” ในประเทศไทย
9 มิถุนายน 2564
ภาพประกอบ : เรือนพักของค่ายผู้พลัดถิ่นดอโน่กู่ ก่อนจะเริ่มแออัดด้วยสมาชิกใหม่ ถ่ายโดยชาวบ้านกะเรนนี
