เหมือนว่าอยู่กันคนละโลก
เมื่อทุ่มกว่าของวันศุกร์ที่ 22 กรกฎาคม ขณะที่เสียงปืนใหญ่ปืนน้อยในฝั่งเมียวดีกำลังดังสนั่นจนคนแม่สอดได้ยินทั่ว ผู้ลี้ภัยทางการเมืองและผู้ลี้ภัยสงครามในแม่สอดและพบพระนิ่งฟังหวาดหวั่นเหมือนฝันร้าย ที่สะพานมิตรภาพเชื่อมไทย-พม่า ก็กำลังมีความเคลื่อนไหวคึกคักว่าด้วยการจัดการการนำเข้าแรงงานข้ามชาติตาม MOU
ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ผู้ลี้ภัยการเมืองในแม่สอดมองเห็นรถบัสคันใหญ่นับสิบจอดเรียงรายเพื่อรอรับแรงงานข้ามชาติเดินทางเข้าพื้นที่ชั้นใน คนเหล่านี้เดินทางเข้ามาใหม่ตามกระบวนการรัฐต่อรัฐ ขณะที่คนหลบซ่อนตัวอยู่ตามชายแดนยังไม่มีสิทธิทำงานตามกฎหมายเหมือนเดิม เพราะไม่สามารถเข้าสู่กระบวนการที่จะเชื่อมโยงตัวเองเข้ากับรัฐพม่าได้
เช้าวันจันทร์ที่ 25 กรกฎาคม ข่าวการประหารชีวิตนักกิจกรรมเพื่อประชาธิปไตยพม่า 4 คนสร้างความตระหนก สลด และโกรธแค้นไปทั่ว เหตุการณ์ดังกล่าวตามมาด้วยม็อบว่าจ้างของคณะทหารพม่า (SAC) ที่ไปบุกรุมด่าทอขว้างปาบ้านของครอบครัวผู้เสียชีวิต การจับกุมสมาชิกพรรค NLD ซึ่งเสียชีวิตจากการทรมานระหว่างสอบสวนในค่ายทหารย่างกุ้ง และข่าวคราวแนวโน้มที่จะมีนักโทษการเมืองถูกประหารเพิ่มเติมอีก 41 ราย เนื่องจากถูกกันตัวแยกออกไปและมีบางรายได้พบกับญาติ เช่นเดียวกับผู้เสียชีวิต 4 คนแรก
ทั้งหมดนี้ ขณะที่มีแถลงการณ์ประณามจากภาคประชาสังคม รัฐบาลต่างประเทศ และองค์การระหว่างประเทศ บินว่อนไปทั่ว มีคำเรียกร้องให้รัฐบาลไทยแสดงท่าทีและมีนโยบายต่อผู้ลี้ภัยจากประเทศพม่าให้ชัดเจน หากโฆษกกระทรวงการต่างประเทศไทย เพียงกล่าวถึงการส่งสารท้าทายของคณะทหารพม่าครั้งนี้ว่า ขอแสดงความเสียใจ และยังระบุถึงผู้เสียชีวิตในฐานะนักโทษประหารทั่วไป อีกทั้งในบ่ายวันรุ่นขึ้น ก็ปรากฏข่าวทางการไทยส่งกลับผู้ลี้ภัยที่บ้านหมื่นฤาชัย 118 คนไปยังบ้านเซ่บอโบตรงข้ามฝั่งน้ำที่เพิ่งมีระเบิดลงและมีผู้เสียชีวิตไปเมื่อต้นเดือน
27 กรกฎาคม ผ่านไปหนึ่งคืนที่ผู้ลี้ภัยกลุ่มใหญ่กลับไป เสียงปะทะกันที่บริเวณฐานอูเกร้ท่าและบ้านเบลอโด้ก็ดังสนั่นหวั่นไหว แห่งแรกอยู่ห่างจากเซ่บอโบไปทางใต้ราว 11 กิโลเมตรกว่า แห่งที่สองห่างไปเพียง 3 กิโลเมตรกว่า
ถึงวันนี้ คนอพยพลี้ภัยกระจัดกระจายทั้งในขอบแดนจังหวัดดูปลายา และเข้ามาในอ.พบพระ จ.ตาก นักโทษการเมืองยังคงรอถูกประหาร นโยบายไทยต่อผู้ลี้ภัยสงครามและผู้ลี้ภัยทางการเมืองยังคงเงียบงันไม่เปลี่ยนแปลง
โครงการเมืองจีนแหล่งบันเทิงและคาสิโน ฉ่วย ก๊กโก่ ยังมีไฟกระพริบวิบวับสว่างไสว และที่จอดรถไทยสำหรับคนที่จะข้ามไปคาสิโนใหญ่น้อยยังเต็มอยู่ตามปกติ
30 กรกฎาคม 2565
