เด็กกับเครื่องบิน
ในภาวะสงบ ผู้ใหญ่มักชี้ชวนให้เด็กเล็กดูเครื่องบินที่บินผ่าน ยิ่งบินเตี้ยเห็นลำใหญ่เท่าไหร่ก็ยิ่งน่าตื่นตา
แต่ในภาวะสงคราม แค่เสียงกระหึ่มบนฟ้าก็ทำให้ใจสั่นกันแล้ว
หลายเดือนที่ผ่านมานี้ ชาวบ้านและเด็ก ๆ บ้านโค่เก้ ริมฝั่งสะละวิน จังหวัดมื่อตรอ ตรงข้ามแม่สะเรียง ต้องวิ่งหนีกันจ้าละหวั่นเดือนละครั้งเป็นอย่างน้อย บางเดือนอย่างเช่นเดือนนี้ ก็ต้องวิ่งกันหลายครั้ง เมื่อปรากฏ “เฮลิคอปเตอร์ไม่ทราบฝ่าย” บินผ่านเข้ามาเหนือหัว
“มันจะเป็นเครื่องไทยหรือพม่า ฉันไม่รู้ได้ แต่มันบินมาจากตะวันออกของแม่น้ำสาละวิน และไม่ว่าจะบินมาจากทางไหน สิ่งที่เราต้องทำ ก็คือหนีไว้ก่อน จะชะล่าใจไม่ได้ เราไม่มีทางรู้ว่าลำไหนจะยิงเราไหม หรือจะทิ้งระเบิดใส่เรา”
“เมื่อวันที่ 1 สิงหา เฮลิคอปเตอร์มา เมื่อวานนี้ก็มาอีกเมื่อตอนเกือบบ่ายสาม บ่ายสองโมง 52 นาที เด็ก ๆ ถึงกับต้องกระโดดหนีกันออกจากห้องเรียนไปลงหลุมหลบภัย ถ้าไม่เคยอยู่กับสถานการณ์แบบนี้ก็อาจจะไม่เข้าใจหรอกว่า อะไรที่อยู่บนฟ้ามันน่ากลัวขนาดไหน”
“ถ้าเป็นสถานการณ์ปกตินะเหรอ เราไม่ได้ใส่ใจกับพรมแดนเท่าไหร่นักหรอก คนอาศัยอยู่ด้วยกันเป็นเพื่อนบ้านกัน เราไม่ได้เป็นเจ้าของฟ้า จะบินผ่านไปมาก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร”
สิ่งที่ครูทั้งหลายต้องทำในยามนี้ นอกจากคือการปลอบขวัญเด็กที่ต้องวิ่งหลบภัยกันเป็นประจำแล้ว ยังคือการทำความเข้าใจด้วยว่า แม้จะเริ่มชินชากับวัตถุบนฟ้าไม่ทราบฝ่ายที่เพียงบินผ่าน ทุกครั้งที่เสียงกระหึ่มมา ก็ยังต้องหลบภัยดังเดิม
จะไปคิดว่าไม่เป็นไรไม่ได้ เด็ก ๆ ที่เติบโตบนริมน้ำสาละวินขณะนี้จะต้องเรียนรู้ว่า พวกเขาจะประมาทไม่ได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว
23 สิงหาคม 2565
วิดีโอประกอบ ชาวบ้านสาละวิน