สูญหาย แต่ไม่มีวันสิ้นสูญ
เป็นเวลา 8 ปี นับจากวันที่ 17 เมษายน 2557 ที่ “บิลลี่” พอละจี รักจงเจริญ สูญหายไป หลังจากมีผู้พบเห็นครั้งสุดท้ายที่ด่านมะเร็ว ที่ขวางกั้นระหว่างบ้านบางกลอยกับตัวอำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี
แม้คดีของเขาจะได้รับความสนใจบนเวทีนานาชาติ และในเดือนเมษายน 2562 จะมีการพบชิ้นส่วนกระโหลกในถังขนาดใหญ่ที่มีรอยเผาไหม้จมอยู่ใต้น้ำบริเวณสะพานแขวนเหนือเขื่อนโดยมีการพิสูจน์ DNA แล้วว่าตรงกับแม่ของเขา
จนบัดนี้ ก็ยังไม่มีคำตอบว่าเกิดอะไรขึ้น ยังไม่มีการยอมรับว่าบิลลี่ถูกฆาตกรรม ยังไม่มีผู้ต้องสงสัยใดถูกดำเนินคดี
“บิลลี่” คือชายหนุ่มชาวกะเหรี่ยง หลานชายคนโปรดของปู่คออิ้ซึ่งเป็นผู้นำธรรมชาติของชุมชน เขาคือนักสู้ที่ไม่ได้อยากเป็นผู้นำ แต่จำเป็นต้องลุกขึ้นกระทำสิ่งต่าง ๆ ก็ด้วยหัวใจอันสัตย์ซื่อกับศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของตน ในปี 2554 บิลลี่ได้ก้าวออกมานำการต่อสู้เพื่อสิทธิของชาวบ้าน ที่ถูกบังคับอพยพจากแผ่นดินบรรพบุรุษ “บางกลอย (บน) -ใจแผ่นดิน” โดยใช้ความรุนแรง เผาทำลายบ้าน ยุ้งข้าวให้ลงมาเบียดเสียดไร้ที่ทำกินอยู่ ณ บ้านโป่งลึก-บางกลอยปัจจุบัน
สำหรับเพื่อนไร้พรมแดน บิลลี่ คือสมาชิกโครงการเกี่ยวก้อย คือเพื่อนที่ช่วยผลักดันให้โครงการหนังสั้นสิทธิมนุษยชนซึ่งถึงจุดยุติไปแล้วได้เดินหน้าต่อ เขาเป็นนักเคลื่อนไหวหนึ่งในไม่กี่คนที่มองเห็นพลังของศิลปะการสื่อสาร หรือสิ่งที่ทุกวันนี้เรียกกันว่า Soft Power และคือนักเคลื่อนไหวชาวกะเหรี่ยงสัญชาติไทย ที่กล่าวถึงการเดินทางไปชายแดนเพื่อทำความเข้าใจกับสถานการณ์การอพยพลี้ภัยด้วยดวงตาเป็นประกาย
ปี 2565 เรื่องราวการสูญหายของบิลลี่ คือภาพแสดงการสูญหายของความยุติธรรม และเรื่องราวการต่อสู้เพื่อสิทธิของชาวบ้านบางกลอยก็คือหนึ่งในภาพแสดงสถานการณ์สิทธิมนุษยชนอันน่าสลดของประเทศไทย เหล่านี้อาจทำให้เราหลายคนสิ้นหวัง ว่าหากชาวกะเหรี่ยงสัญชาติไทยยังได้รับการปฏิบัติเช่นนี้ แล้วจะหวังอะไรกับการเรียกร้องสิทธิและความเข้าใจให้กับผู้ลี้ภัยคนข้ามแดน
แต่ “บิลลี่” ก็สอนให้เรามีความหวัง เขาเองก็เช่นเดียวกับผู้ลี้ภัยหลายคน ที่เคยยืนมองเถ้าถ่านของบ้านกับยุ้งข้าว แล้วเดินจากตรงนั้นออกมาด้วยความหวังที่จะต่อสู้เพื่อสิ่งที่เชื่อ
ร่างสูญหาย แต่ความหวังไม่สิ้นสูญ
17 เมษายน 2565
* ภาพประกอบ : บิลลี่ “พอละจี รักจงเจริญ” โดยเพื่อนไร้พรมแดน และจดหมายของภรรยา “มื่อนอ” กับลูกทั้งห้าที่เขียนถึงเขา ซึ่งได้รับการจัดแสดงไว้ในนิทรรศการ “พ้นด่าน” ที่หอกลางเวียง อ.เมือง เชียงใหม่ ถึงวันที่ 20 เมษายน นี้