ผู้พลัดถิ่นกะเรนนีหลบหนีเข้าพื้นที่ชายแดนเพิ่มขึ้น
แม้ค่ายพักผู้พลัดถิ่นดอโน่กู่ แต่เดิมจะจัดเป็นสถานที่รองรับนักกิจกรรมและ เยาวชนคนหนุ่มสาว CDM โดยมีโซนกักตัวผู้มาใหม่ตามมาตรการป้องกันโควิด 19 ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา จำนวนเด็กเล็กและคนชราก็เพิ่มขึ้นมาก และเพิ่มขึ้นทุก ๆ วัน
ครอบครัวชาวกะเรนนี หลบลี้หนีภัยอยู่ในป่า และพยายามเลี่ยงหนีหน่วยลาดตระเวนทหารพม่ามายังชายแดนไทย ด้วยความหวังว่าที่นี่จะปลอดภัยในความดูแลของทหาร KNPP และหากอันตรายเข้าใกล้มากขึ้นก็จะสามารถหนีเข้ามาขอพึ่งพาเพื่อนมนุษย์ในประเทศไทยได้
ด้วยความแออัดที่เพิ่มขึ้น ศูนย์กักตัวผู้มาใหม่ไม่เพียงพอ ชาวบ้านต้องเข้าไปอาศัยในโรงเรียน เสื่อ มุ้ง ผ้าห่ม อาหาร ยังคงขาดแคลน
เพื่อนไร้พรมแดนหวังว่า ผู้พลัดถิ่นเหล่านี้จะได้รับความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมเพียงพอที่จะมีชีวิตรอดและอยู่ได้อย่างสมศักดิ์ศรี และเมื่อถึงวันที่เกิดเหตุจำเป็นจะต้องลี้ภัยเข้ามาในประเทศไทย พวกเขาจะไม่ถูกปฏิเสธ และจะไม่ถูกผลักดันกลับโดยขาดการไตร่ตรองและตัดสินใจอย่างมีส่วนร่วม ของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้ลี้ภัยเอง
ยุติใช้ข้ออ้างของความ “กลัวว่าผู้ลี้ภัยจะเป็นภาระอยู่นานและไม่ยอมกลับ”เพราะพวกเขาไม่จำเป็นต้องเป็นภาระ และการไม่สามารถกลับถิ่นฐานได้ไม่ได้เกิดเพียงจากความ “ไม่อยากกลับ” หากคือสถานการณ์ที่ “กลับไม่ได้”
11 มิถุนายน 2564
ภาพถ่ายโดย คนกะเรนนี