We Don’t Feel SAFE #04

We Don’t Feel SAFE #04

| | Share

การความร่วมมือข้ามพรมแดนสำหรับ TNR ได้รับการอธิบายว่าเป็นการร่วมมือระหว่างหน่วยงานด้านความมั่นคงของไทยและกลุ่มอำนาจในเมียนมา ควรสังเกตว่า ผู้ลี้ภัยและผู้คัดค้านจากเมียนมาร์ส่วนใหญ่ไม่สามารถแยกแยะเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงของไทยต่างๆ ได้จากเครื่องแบบและปลอกแขน เช่น ตำรวจ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจตระเวนชายแดน ทหารราบ เจ้าหน้าที่อาสาสมัคร และหน่วยรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ดังนั้น การปฏิบัติการร่วมกันอาจถูกเข้าใจผิดว่าเป็นการตรวจค้นของตำรวจ และเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานหนึ่งอาจถูกเข้าใจผิดว่าเป็นอีกหน่วยงานหนึ่ง ดังนั้น รายงานนี้จึงใช้คำว่า ‘เจ้าหน้าที่’ และ ‘หน่วยงานราชการ’ แทนที่จะระบุชื่อหน่วยงานเฉพาะ

ในแม่สอด ผู้มีบทบาทสำคัญในฝั่งเมียนมาไม่เพียงแต่ SAC ในฐานะรัฐบาลที่ปกครองหรือกองทัพเมียนมา แต่ยังรวมถึง BGF ที่ควบคุมพื้นที่ชายแดนในเมืองเมียวดี กองทัพเมียนมาไม่มีฐานที่มั่นที่ชายแดนในเมียวดีและพื้นที่กว้างใหญ่ตรงข้ามแม่สอดอยู่ภายใต้การควบคุมของ BGF ตามด้วย DKBA และ KNU ดังนั้น การกระทำทางกายภาพโดยตรงในแม่สอดจึงมีแนวโน้มว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ของ BGF มากกว่ากองทัพเมียนมา ความซับซ้อนอยู่ที่วัตถุประสงค์ของการกระทำ ว่าเป็นภารกิจในนามของ SAC หรือเพื่อประโยชน์ของความสัมพันธ์ระหว่าง SAC และ BGF หรือเพื่อประโยชน์ของตนเอง

สามระดับของการความร่วมมือที่เกี่ยวข้องกับ TNR ระหว่างรัฐบาลไทยและเมียนมาต่อไปนี้มาจากประสบการณ์และความคิดเห็นของผู้เข้าร่วมรายงานข่าวและการสังเกตของทีม Border Voices

1) นโยบายระหว่างรัฐบาลกับรัฐบาล
รายงานข่าวในช่วงหลายปีที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นว่าไทยและเมียนมามีความสัมพันธ์ทางการทูตและการทหารที่แน่นแฟ้น หลังจากการรัฐประหารไม่นาน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของไทย ซึ่งก็มาจากการรัฐประหารเช่นกัน ได้ประกาศว่าเขาได้รับจดหมายจากผู้นำรัฐประหารของเมียนมา พลเอกมิน อ่อง หล่าย ขอให้ช่วยสนับสนุนประชาธิปไตย และยังแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมว่า “สิ่งที่สำคัญที่สุดในวันนี้คือการรักษาความสัมพันธ์ที่ดี” รัฐบาลที่ผ่านมาได้ใช้ความพยายามอย่างมากในการพาเมียนมากลับมาสู่การประชุมระดับสูงของอาเซียน

ในขณะที่ผู้นำทางทหารของทั้งสองประเทศมักพูดคุยและ/หรือพบกันบ่อยครั้ง คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของไทยที่สาบานตนเข้ารับตำแหน่งในเดือนสิงหาคม 2566 ยังไม่ได้แสดงท่าทีที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ในเดือนมกราคม 2567 มีรายงานว่าผู้บัญชาการทหารสูงสุดของไทยได้เจรจากับมิน อ่อง หล่าย เกี่ยวกับความร่วมมือในการปราบปรามกิจกรรมที่ผิดกฎหมายบริเวณชายแดน ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม การแลกเปลี่ยนข้อมูล และ ‘ความพยายามเพื่อรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในพื้นที่ชายแดน’

แม้จะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดและข้อสงสัยของชาวเมียนมาในต่างแดน แต่ไม่มีหลักฐานพิสูจน์ใหม่ๆ ว่าทั้งสองรัฐบาลร่วมมือกันโดยตรงเพื่อวัตถุประสงค์ของ TNR

ความพยายามของผู้ช่วยทูตทหารเมียนมาที่ขอให้กองทัพไทย “ดำเนินการที่จำเป็นเพื่อควบคุมกิจกรรม” ของสมาชิก 15 คนขององค์กรป้องกันชาติพันธุ์กะเหรี่ยง (KNDO) และ PDF ที่ได้รับบาดเจ็บในจังหวัดตากไม่ได้รับการตอบสนองจากการคุมขังหรือการส่งผู้ร้ายข้ามแดน การตรวจค้นผู้ลี้ภัยที่ไม่มีเอกสารในแม่สอดและที่อื่นๆ บ่อยครั้งในช่วงกลางปี ​​2566 อาจเป็นผลมาจากแรงกดดันของรัฐบาลทหารเมียนมา หรือเพียงแค่การตรวจค้นตามปกติที่เกิดขึ้นก่อนและหลังการเปลี่ยนแปลงอำนาจ ไม่มีรายงานการคุมขังและส่งตัวผู้ลี้ภัยทางการเมืองหรือผู้คัดค้านเนื่องจากการตรวจค้นเหล่านี้

อย่างไรก็ตาม ผู้สังเกตการณ์เห็นพ้องกันว่าเป็นที่ชัดเจนว่าผู้ลี้ภัยและผู้คัดค้านจากเมียนมาถูกบังคับให้เสียสละเพื่อ ‘ความสัมพันธ์ที่ดี’ และ ‘สันติภาพและเสถียรภาพในพื้นที่ชายแดน’ ที่ไทยมุ่งหมาย

การรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับรัฐบาลทหารหมายความว่าไม่สามารถรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับศัตรูของตนได้อย่างเปิดเผย ท่าทีเชิงนโยบายนี้ส่งผลโดยตรงต่อนโยบายของรัฐบาลไทยต่อผู้ลี้ภัยทางการเมือง และการปฏิเสธการมีอยู่ การคุ้มครอง และสิทธิของผู้ลี้ภัย เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้คนมีความเสี่ยงต่อ TNR นอกจากนี้ การที่รัฐบาลไทยมองข้ามความสำคัญของการบุกรุกทางทหารของเมียนมาทั้งหมดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เกิดความเป็นไปได้ของ TNR

2) ความร่วมมือกับหน่วยงานความมั่นคงท้องถิ่นของไทย
ความร่วมมือนี้หมายถึงงานท้องถิ่นภายใต้คำสั่งระดับสูงหรือได้รับการยอมรับจากผู้บัญชาการระดับสูงที่อ้างว่าเป็นผลประโยชน์ของประเทศไทย ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว หน่วยงานด้านความมั่นคงของไทยที่นี่รวมถึงหน่วยทหารทั้งหมดภายใต้กระทรวงกลาโหมและตำรวจทั้งหมด รวมถึงตำรวจตรวจคนเข้าเมืองและตำรวจตระเวนชายแดนภายใต้กระทรวงมหาดไทย

ผู้เข้าร่วมการวิจัยตระหนักถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยและเมียนมาในระดับคำสั่งท้องถิ่นจากรายงานข่าวของการประชุมคณะกรรมการชายแดนระดับเมือง (TBCs) บ่อยครั้งและเหตุการณ์อื่นๆ เช่น ข้าวลึกลับ 700 กระสอบที่ริมฝั่งแม่น้ำสาละวิน ที่กองทัพไทยถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมในการส่งมอบให้กองทัพเมียนมา นอกจากนี้พวกเขายังได้ยินเกี่ยวกับการตรวจค้นร่วมและการค้นหาของตำรวจที่มุ่งเป้าไปที่บุคคลบางคนโดยเฉพาะ เนื่องจากเจ้าหน้าที่มาพร้อมกับรายชื่อและ/หรือรูปถ่าย แต่ไม่มีใครสามารถพิสูจน์แหล่งที่มาได้

ยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่ามีความร่วมมือในพื้นที่เพื่อวัตถุประสงค์ในการก่ออาชญากรรม TNR กับผู้ลี้ภัยและผู้คัดค้านทางการเมืองในแม่สอด นอกจากนี้ ในเหตุการณ์หนึ่ง มักมีหน่วยงานความมั่นคงในท้องถิ่นและระดับภูมิภาคหลายหน่วยที่เกี่ยวข้อง และแต่ละหน่วยอาจไม่ได้มีภารกิจและนโยบายเดียวกัน นอกจากนี้ มักจะมี CBOs, NGOs และองค์กรระหว่างประเทศจำนวนมากที่เข้ามาแทรกแซงเพื่อป้องกันการส่งกลับประเทศ

ดังนั้น ไม่มีใครสามารถยืนยันได้ว่าคนเหล่านั้นไม่ได้ถูกส่งกลับไปยังมือของ SAC หรือ BGF เพราะไม่มีเจตนานั้นตั้งแต่แรก หรือเพราะหน่วยความมั่นคงที่มีอำนาจสามารถป้องกันได้หรือเพราะการแทรกแซงของกลุ่มและองค์กรต่างๆ นอกจากนี้ ยังมีเหตุผลที่ชอบด้วยกฎหมายสำหรับการค้นร่วมหลายครั้งในช่วงกลางปี 2566 เนื่องจากสมาชิก PDF ที่เป็นเป้าหมายถูกพบพร้อมอาวุธ และผู้ถูกจับกุมไม่ได้ถูกส่งตัวไปเลย

ตามคำบอกเล่าของผู้เข้าร่วมที่มีประสบการณ์มายาวนานในชายแดน ไทยจะเสียสละมากเกินไปหากหน่วยงานความมั่นคงในท้องถิ่นของตนร่วมมือกับทางการเมียนมาในอาชญากรรมดังกล่าว และมีแนวโน้มว่าข้าราชการท้องถิ่นบางคนจะกระทำการเองเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว

อย่างไรก็ตาม ทีม Border Voices สังเกตว่าความไม่ใส่ใจของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นต่อการปฏิบัติต่อผู้ลี้ภัยสงครามอาจอำนวยความสะดวกในการเกิดเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับ TNR ตามรายงานของสื่อท้องถิ่น ในเดือนมกราคม 2565 เจ้าหน้าที่ไทยบอกกับผู้ลี้ภัยในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวว่ามีแผนที่จะส่งตัวคนกลับวันละร้อยคนไปยังค่ายชั่วคราวของ SAC ที่ซึ่งตัวตนของผู้กลับคืนทั้งหมดจะถูกตรวจสอบก่อนส่งตัวกลับบ้าน

ความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่ของทั้งสองประเทศไม่ว่าจะมีเจตนาหรือไม่ก็ตาม ทำให้ผู้ลี้ภัยทางการเมืองและชาวบ้านที่อาจตกเป็นเป้าหมายในการสอบสวนมีความเสี่ยงอย่างมาก

เหตุการณ์อื่นที่บอกเล่าโดยแหล่งข่าวหลายแห่งยังแสดงให้เห็นว่าความร่วมมือระหว่างกองทัพไทยและกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์เพื่อจุดประสงค์ในการผลักดันผู้ลี้ภัยให้ข้ามพรมแดนกลับไปนั้นเกือบจะเกินขอบเขต

เจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่ายไม่ต้องการผู้ลี้ภัยจากเมียนมาในดินแดนไทย DKBA และ BGF ต้องการการสนับสนุนจากพลเรือนในดินแดนของตน ในขณะที่ SAC ไม่ต้องการหลักฐานที่เป็นอยู่ของการทารุณกรรมในเมียนมา ไม่ว่าเจตนาของกองทัพไทยจะเป็นอย่างไร การมีผู้นำกลุ่มติดอาวุธพูดในพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ให้ทำให้ผู้ลี้ภัยรู้สึกไม่ปลอดภัยและสนับสนุนความต้องการของ SAC ในการทำให้ผู้คนเงียบลงโดยตรง

3) ระดับบุคคลเพื่อประโยชน์ส่วนบุคคล
กรณีของสมาชิก PDF สามคนกระตุ้นให้เกิดความหวาดกลัวในหมู่ผู้ลี้ภัยชาวเมียนมาในแม่สอด จากรายงานข่าวเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2566 ชายทั้งสามคนถูกจับกุมและส่งตัวให้ BGF โดยตำรวจตรวจคนเข้าเมืองแม่สอดในวันที่ 4 เมษายน ในระหว่างที่พวกเขาพยายามหลบหนี หนึ่งคนถูกยิงเสียชีวิต อีกสองคนที่ได้รับบาดเจ็บถูกส่งตัวไปยังเรือนจำของ SAC

ตามแหล่งข่าวท้องถิ่นของทีม Border Voices มีการ ‘เจรจา’ โดยหน่วยความมั่นคงอื่นเพื่อยับยั้งการส่งตัวกลับ แต่ก็ทำไปอย่างรีบเร่งในวันนัดหมายเพื่อเยี่ยมและหารือเพิ่มเติม แสดงให้เห็นว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่อุบัติเหตุแต่มีเจตนา

ตามความเห็นของผู้สังเกตการณ์ เหตุผลที่กรณีนี้ถูกสงสัยว่าเป็นความร่วมมือของเจ้าหน้าที่เพื่อ TNR คือความจริงที่ว่ามีวิธีอื่นๆ ที่เจ้าหน้าที่ไทยสามารถจัดการได้ ไม่จำเป็นต้องให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองส่งคนไปอย่างรวดเร็วเช่นนั้น และไม่จำเป็นต้องส่งมอบให้ BGF เนื่องจากมีช่องทางการส่งตัวอื่นๆ มากมาย นอกจากนี้ อีกกรณีคล้ายกันก็มีรายงานในวันถัดมา

สมาชิก PDF สองคนที่ถูกส่งตัวไปรักษาอาการบาดเจ็บที่โรงพยาบาลแม่ระมาด ห่างจากแม่สอดไป 36 กิโลเมตร ถูกพากลับโดยเจ้าหน้าที่ไทยกลุ่มหนึ่งและถูกกักตัวในด่านตรวจคนเข้าเมืองแม่สอด โชคดีที่เนื่องจากข่าวของกรณีแรก ข้อมูลของกรณีนี้แพร่กระจายอย่างรวดเร็วและการแทรกแซงจากหน่วยงานต่างๆ รายงานว่าเป็นประโยชน์

ตามความเห็นของผู้เข้าร่วมการวิจัยและผู้มีส่วนได้เสียที่สัมภาษณ์ มีความสงสัยว่าทั้งสองเหตุการณ์นี้อาจเป็นความร่วมมือระหว่าง SAC และ/หรือ BGF กับเจ้าหน้าที่ไทยบางคนในระดับบุคคลเพื่อแลกกับผลประโยชน์ส่วนตัว

เหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องทางอ้อม

ในบรรดารูปแบบต่างๆ ของการล่วงละเมิดต่อผู้ลี้ภัยชาวเมียนมาในแม่สอด มีบางกรณีที่อ้างว่าเป็นหรือกลายเป็น TNR แม้ว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงจะไม่ใช่ก็ตาม

สิ่งเหล่านี้รวมถึงวิธีที่เจ้าหน้าที่ไทยที่ทุจริตจับกุมผู้ลี้ภัยชาวเมียนมาที่ไม่มีเอกสารโดยมีจุดประสงค์เพียงเพื่อกรรโชกเงิน ไม่ใช่เพื่อดำเนินคดีหรือเนรเทศ ผู้เข้าร่วมทุกคนเล่าเรื่องเดียวกัน ไม่ว่าจะมาจากประสบการณ์ของตัวเองหรือของเพื่อนและสมาชิกในครอบครัวใกล้ชิด ผู้ถูกจับกุมจะถูกบอกผ่านหรือล่ามว่าจะต้องจ่ายเงินจำนวนหนึ่งตั้งแต่หลักพันถึงหลักหมื่น มิฉะนั้นเขาหรือเธอจะถูกส่งตัวไปให้กองทัพเมียนมาโดยตรง ถูกทรมาน คุมขัง หรือฆ่า ไม่มีใครกล้าเสี่ยง ทุกคนถูกทำให้เชื่ออย่างน้อยบางส่วนว่าเจ้าหน้าที่ไทยที่รับผิดชอบได้ส่งผู้คัดค้านไปยังมือของ SAC หรือ BGF มาระยะหนึ่งแล้ว

ทีม Border Voices ตัดสินใจที่จะไม่รวมคำพูดโดยละเอียดจากผู้เข้าร่วมการวิจัยในเรื่องนี้ เนื่องจากอาจทำให้บุคคลเหล่านั้นถูกเปิดเผยและนำไปสู่การทำร้ายเพิ่มเติมตราบเท่าที่ประเทศไทยยังไม่มีการคุ้มครองทางกฎหมายสำหรับผู้ลี้ภัย

รูปแบบการล่วงละเมิดอีกอย่างหนึ่งคืออาชญากรรมที่ผู้กระทำผิดเป็นหรืออ้างว่าเป็นสมาชิกของทางการจากเมียนมา เช่นเดียวกับข้างต้น อาชญากรรมดังกล่าวไม่มีจุดประสงค์เพื่อทำให้ผู้คัดค้านเงียบหรือกำจัดพวกเขา แต่เป็นอาชญากรรมในประเทศไทยที่กระทำโดยผู้มีอำนาจในเมียนมา และผู้กระทำความผิดมักไม่ได้รับโทษไม่เพียงเพราะความเปราะบางทางกฎหมายของผู้รอดชีวิต แต่ยังรวมถึงอิทธิพลของผู้กระทำความผิดในพื้นที่ชายแดน


Cross-border cooperation for TNR was explained as a cooperation of either one or many units of security agencies on the Thai side and one or more power groups on the Myanmar side. It should be noted that most Myanmar refugees and dissidents are not able to distinguish between personnel of different Thai security units such as police, immigration police, border police, infantry soldier, ranger, volunteer defense corps and village security unit from uniforms and arm patches. It is possible that a joint-operation was misunderstood to be a police search, and that personnel of one unit could be misunderstood as another. Therefore, the term ‘authorities’ and ‘officials’ are mostly used in this report instead of a specific unit’s name.

In Mae Sot, the key actors on the Myanmar side are not only SAC as the ruling regime or the Myanmar military, but also BGF, which controls the border area in Myawaddy. The Myanmar army does not have border bases in Myawaddy and the vast area opposite Mae Sot is under the authority of BGF, following by DKBA and KNU. Thus, it is more likely that a direct physical action in Mae Sot could be of BGF personnel rather than the Myanmar army’s. The complexity lies on the objectives of the action, whether it is a task on behalf of SAC, or for the benefit of SAC and BGF-SAC’s relation, or purely to serve its own interests.

The three levels of TNR-related cooperation between Thai and Myanmar governments below are extracted from experiences and opinions of the participants, media reports and the Border Voices Team’s observations.

1) Government-to-government’s policy
Media reports over the years reflect how Thailand and Myanmar have had strong diplomatic and military ties. Right after the coup, the Thai Prime Minister and Defense Minister, who also came to power by a military coup, announced that he had received a letter from Myanmar’s junta leader, General Min Aung Hlaing, asking for help to support democracy, and even further gave a comment that ‘what is most important today is to maintain good relations.’ The past government that ended in 2023 spent much effort to bring back Myanmar junta to ASEAN’s high-level meetings, while the military leaders of the two countries frequently talked and/or met. The new Thai cabinet that was sworn into office in August 2023 has not yet shown significant different approach so far. Recently in January 2024, Thailand’s supreme commander was reported to hold talks with Min Aung Hlaing about cooperation to crackdown illegal activities on the border, humanitarian aid, exchange of information and ‘efforts for ensuring peace and stability in border areas’

Despite the close ties and Myanmar diaspora’s suspicions, there is no recent proven evidence of the two governments’ cooperation directly for the purpose of TNR.

The effort of Myanmar military attaché who requested the Thai army to ‘take necessary actions to effectively contain the activities’ of the 15 injured members of Karen National Defence Organization (KNDO) and PDF hospitalized in Tak province was not responded by either detention orextradition. Frequently raids of undocumented migrants in MaeSot and elsewhere in the middle of 2023 could either be the result of the Myanmar junta’s pressure or just normal raids that usually occurred right before and after a powershift. There was no report of imprisonment and deportation of political refugees or dissidents as a result of these raids.

However, observers agree that it is clear that Myanmar refugees and dissidents are forced to sacrifice for the ‘good relations’ and ‘peace and stability in border areas’ that Thailand aims for.

Keeping good relations with the military regime means one cannot keep good relations with its enemies openly. The policy stance has a direct impact on the Thai government’s policy on political refugees, and the denial of the existence, protection and rights of refugees is the key factor contributing to the people’s vulnerabilities to TNR. In addition, the Thai government downplays the significances of all Myanmar military incursions during the past few years is a factor contributing to TNR possibilities.

2) Coooperation with Thai local security unit
The cooperation here refers to a local task under a high-level command or acknowledged by a high-level commander that is claimed to be in the interests of Thailand, and not for personal benefits. The Thai security units here include all military units under the Ministry of Defence and all police, including the immigration and border police under the Ministry of Interior.

The research participants are aware of the good relations between Thai and Myanmar at the local command level, owing to media reports of the Township Border Committee’s (TBCs) frequent meetings and other incident such as that of the mysterious 700 bags of rice on Salween river bank that the Thai army was accused to take part of the delivery to Myanmar army. They also heard about a number of joint taskforce raids and police searches that specifically targeted certain individuals as the authorities came with a list of names and/or photos, of which no one has proof of the source.

There has not yet been any confirmed evidence of local cooperation with a policy purpose to commit TNR against political refugees and dissidents in Mae Sot. This also is due to the fact that in one incident, there usually were many local and regional security units involved, and each unit may not have the same task and same policy. In addition, there usually were a number of CBOs, NGOs and international organizations that intervened to prevent refoulement.

Therefore, nobody can confirm that the people were not sent back to the hands of SAC or BGF because there was no such intention in the first place, or because one powerful security unit could prevent it or because of the intervention of various groups and organizations. In addition, a legitimate ground was claimed for a few joint-force searches during mid-2023 as the targeted PDF members were found with weapons, and the arrested persons were not extradited at all.

According to a participant who has long had experiences on the border, Thailand would sacrifice too much if its local security units cooperate with Myanmar authorities in such crimes and it is more likely that some local officials act on their own for their personal benefits.

Nevertheless, the Border Voices Team observed that the insensitivity of the local authorities’ treatment of war refugees could facilitate a TNR-related incident. According to a local media report, during January 2022, Thai officials told refugees in a Temporary Safe Area that there was a plan to repatriate a hundred people a day back to SAC’s temporary camp, where all returnees’ identities would be verified before having them sent back home.

The cooperation between authorities of the two countries, with or without intention, poses grave risks for political refugees, and young villagers who could be targeted for interrogation.

Another incident told by a number of sources also showed that the cooperation between the Thai army and an ethnic armed group for the purpose of urging refugees to cross the border back almost crossed the line.

Authorities on both sides of the border do not want Myanmar refugees on Thai soil. DKBA and BGF want to have civilians’ back-up in their territories while SAC does not want a living proof of Myanmar atrocities. Regardless of the Thai army’s intentions, having an armed group leader speaking in an arranged safe area made refugees feel unsafe and directly supported SAC’s desire to silence the people.

3) Individual(s) level for individual(s)’ benefits.
The case of three PDF members stimulated fear among the Myanmar diaspora in Mae Sot. According to news report on 1 April 2023, the men were arrested and handed to BGF by Mae Sot immigration police on April the fourth. During their attempted escape, one was reported killed. The other two injured men were sent to SAC prison.

According to the Border Voices Teams local sources, there was an earlier ‘dialogue’ by another security unit to halt the deportation. Yet, it was done in a hurry on the very day of the appointment for visit and further discussion. This demonstrates that the incident was a not an accident but intentional.

According to observers, the reasons that the case was suspected to be an authorities cooperation for TNR were the fact that practically there were other ways that Thai authorities could have handled it. There was no need for the immigration police to deport the people that fast, and no need to hand them to BGF as there were many other channels of deportation. Moreover, another similar case was reported only a day later.

Two PDF members who were sent to treat injuries in Mae Ramad hospital, 36 kilometers north of Mae Sot, were taken by a group of Thai officials and placed in Mae Sot immigration detention. Fortunately, due to the news of the first case, this case information spread quickly and interventions from various agencies were reported to be helpful.

According to the research participants and interviewed stakeholders, there was a suspicion that the two incidents could be a cooperation between SAC and/or BGF and some Thai officials in (an) individual(s) level in exchange of personal benefits.

Indirectly-related incidents

Among various forms of abuses against the Myanmar diaspora in Mae Sot, there are those that claimed to be or become TNR, despite the fact that the real purpose is not.

These include the way corrupt Thai officials arrest undocumented Myanmar refugees and dissidents with an aim only to extort money, and not to prosecute or deport. All participants shared the same stories, either from their very own experiences or those of their close friends and family members.

The arrested person would be told through or by an interpreter that a certain amount ranging from a few thousand to tens of thousands must be paid, otherwise she or he would be handed directly to the Myanmar army, get tortured, imprisoned or killed. None dared take the risk. Each was made to, at least partially, believe that the Thai officials in charge have been sending dissidents right to the hands of SAC or BGF for quite a while.

The Border Voices Team have decided to include no detailed quotes from the research participants in this regard, as it might expose the individuals and lead them to further harm as long as Thailand still has no legal protection for refugees.

Another form of abuse is a crime that the perpetrator is, or claims to be, a member of an authority from Myanmar. Similarly to the above, such crime has no purpose to silence or get rid of the dissidents. Yet, it is a crime in Thailand that is committed by those with authority in Myanmar, and that the perpetrator is usually unpunished not only because of the survivor’s legal vulnerability but the perpetrator’s influence in the border area.

TNR အတွက် နယ်စပ်ဖြတ်ကျော် ပူးပေါင်းဆောင်ရွက်ခြင်းကို ထိုင်းဘက်ရှိ လုံခြုံရေး အေဂျင်စီ ယူနစ်တစ်ခု သို့မဟုတ် အများအပြားနှင့် မြန်မာဘက်မှ အာဏာရှိသော အုပ်စု တစ်ခု သို့မဟုတ် အများအပြား အကြား ပူးပေါင်းဆောင်ရွက်ခြင်းဟု ရှင်းပြနိုင်သည်။ မြန်မာဒုက္ခသည်များနှင့် အတိုက်အခံ အများစုသည် ရဲ၊ လူဝင်မှုကြီးကြပ်ရေး ရဲ၊ နယ်ခြားစောင့်ရဲ၊ ခြေလျင်တပ်ရင်း စစ်သား၊ နယ်ခြားစောင့်တပ်၊ စေတနာ့ဝန်ထမ်း ကာကွယ်ရေး တပ်ဖွဲ့များနှင့် ရွာလုံခြုံရေး အဖွဲ့များကို ယူနီဖောင်းနှင့် လက်နက် တပ်ဆင်ပုံအပေါ်မူတည်လျက် မတူညီသော ထိုင်းလုံခြုံရေးတပ်ဖွဲ့ ယူနစ်များအကြား ခွဲခြားနိုင်ခြင်း မရှိကြပေ။ ပူးတွဲ စစ်ဆင်ရေးကို ရဲအဖွဲ့ ရှာဖွေမှု အဖြစ် နှင့် ယူနစ် တစ်ခုမှ တပ်ဖွဲ့ဝင်များကို အခြားတပ်ဖွဲ့တစ်ဖွဲ့အဖြစ်လည်းကောင်း နားလည်မှု လွဲနိုင်သည်။ သို့ဖြစ်ရာ ဤ အစီရင်ခံစာတွင် ယူနစ်အမည်များကို အတိအကျ ဖော်ပြခြင်းမပြုပဲ “အာဏာပိုင်များ” နှင့် “အရာရှိများ” ဟူသော ဝေါဟာရများကို အများဆုံး အသုံးပြုထားသည်။

မဲဆောက်တွင် မြန်မာဘက်ခြမ်းက အဓိက ကျသော သူများမှာ အာဏာရ စစ်အုပ်စု သို့မဟုတ် မြန်မာ စစ်တပ်ဖြစ်သည့် စစ်ကောင်စီသာ မကပဲ မြဝတီတွင် နယ်စပ်နယ်မြေများကို ထိန်းချုပ်ထားသော နယ်ခြားစောင့် တပ်ဖွဲ့ BGF အဖွဲ့လည်း ပါဝင်သည်။ မြန်မာ စစ်တပ်က မြဝတီတွင် နယ်စပ် အခြေစိုက်စခန်းများ မရှိပဲ မဲဆောက်၏ မျက်နှာချင်းဆိုင် နယ်မြေ အများစုမှာ BGF ၏ အာဏာပိုင်စိုးမှုအောက်တွင် ရှိပြီး သူ့နောက်တွင် DKBA နှင့် KNU အဖွဲ့ နယ်မြေများ ရှိသည်။ သို့ဖြစ်ရာ မဲဆောက်တွင် တိုက်ရိုက် ရုပ်ပိုင်းဆိုင်ရာ ပြုမူဆောင်ရွက်မှုများမှာ မြန်မာစစ်တပ်ထက် BGF တပ်ဖွဲ့ဝင်များ၏ လုပ်ရပ်များ ဖြစ်လေ့ရှိသည်။ ယင်းလုပ်ငန်းရည်ရွယ်ချက်မှာ စစ်ကောင်စီ ကိုယ်စားလား၊ သို့မဟုတ် စစ်ကောင်စီ၏ အကျိုးစီးပွားအတွက်လား နှင့် BGF-စစ်ကောင်စီ ဆက်ဆံရေး အတွက်လား သို့မဟုတ် ၎င်း၏ အကျိုးစီးပွား သက်သက်လား ဆိုသည်မှာ ရည်ရွယ်ချက်များ အပေါ်မူတည်လျက် ရှုတ်ထွေးမှု ရှိသည်။

ထိုင်းနှင့် မြန်မာ အစိုးရများအကြား TNR နှင့် သက်ဆိုင်သော အောက်တွင် ဖော်ပြထားသည့် ပူးပေါင်းဆောင်ရွက်မှု အဆင့် သုံးမျိုးမှာ ပါဝင်သူများ အတွေ့အကြုံနှင့် အမြင်များ၊ မီဒီယာ ထုတ်ပြန်ချက်များနှင့် နယ်စပ်အသံ၏ တွေ့ရှိမှုများမှ ထုတ်နှုတ်ထားခြင်းဖြစ်သည်။

၁။ အစိုးရမှ အစိုးရသို့ မူဝါဒ
နှစ်ပေါင်းများစွာ မီဒီယာ ထုတ်ပြန်ချက်များက ထိုင်းနိုင်ငံနှင့် မြန်မာနိုင်ငံတို့ အကြား ခိုင်မာသော သံတမန်ရေးနှင့် စစ်ရေး ပူးပေါင်းဆောင်ရွက်မှုကို ထင်ဟပ်နေသည်။ အာဏာသိမ်းပြီးသည်နှင့် သူကိုယ်တိုင်လည်း အာဏာသိမ်းပြီး အာဏာရလာခဲ့သည့် ထိုင်းဝန်ကြီးချုုပ်နှင့် ကာကွယ်ရေး ဝန်ကြီးက မြန်မာ စစ်ကောင်စီ ခေါင်းဆောင် ဗိုလ်ချုပ်ကြီး မင်းအောင်လှိုင်ထံမှ ဒီမိုကရေစီကို ပံ့ပိုးကူညီဖို့ အကူအညီတောင်းခံထားသည့် စာတစောင် ရရှိထားကြောင်း ကြေညာခဲ့ပြီး ဆက်လက်၍ “ယနေ့အချိန်အခါတွင် အရေးအကြီးဆုံးမှာ ကောင်းမွန်သော ဆက်ဆံရေးများကို ထိန်းသိမ်းရန်ဖြစ်သည်” ဟု ထင်မြင်ချက်ပင် ပေးခဲ့သည်။ ၂၀၂၃ တွင် သက်တမ်းကုန်ဆုံးခဲ့သည့် ယခင် အစိုးရက အာဆီယံ အဆင့်မြင့် အစည်းအဝေးများ တွင် မြန်မာ စစ်အုပ်စုကို ပြန်လည် ခေါ်ဆောင်နိုင်ရန် ကြိုးပမ်းအားထုတ်မှု အများအပြား လုပ်ဆောင်ခဲ့သည်။ တချိန်တည်းမှာပင် နှစ်နိုင်ငံ စစ်ခေါင်းဆောင်များ မကြာခဏ စကားပြောခြင်း နှင့်/သို့ တွေ့ဆုံခြင်းများ လုပ်ဆောင်နေခဲ့သည် ။ ၂၀၂၃ ခုနှစ် ဩဂုတ်လ တွင် အာဏာရလာခဲ့သည့် ထိုင်း အစိုးရ အဖွဲ့သစ်သည် ယခုအထိ သိသိသာသာ ခြားနားသော ချည်းကပ်မှုမျိုးကို ပြသခြင်းမရှိသေးပေ။ မကြာသေးမီ ၂၀၂၄ ခုနှစ် ဇန္နဝါရီလက ထိုင်းနိုင်ငံ၏ စစ်ဦးစီးချုပ်က မင်းအောင်လှိုင်နှင့် နယ်စပ်ရှိ တရားမဝင် လုပ်ဆောင်မှုများကို နှိမ်နင်းခြင်း၊ လူသားချင်းစာနာသော အကူအညီ၊ သတင်းအချက်အလက် ဖလှယ်ခြင်းနှင့် ‘နယ်စပ် ဒေသများတွင် ငြိမ်းချမ်းရေးနှင့် တည်ငြိမ်ရေး အာမခံချက်ရှိစေရန် ကြိုးပမ်းအားထုတ်ရန်’ တို့အတွက် ပူးပေါင်းလုပ်ဆောင်ရန် ဆွေးနွေးခဲ့ကြောင်း သတင်းများ ထွက်ပေါ်ခဲ့သည်။

နီးကပ်သော ဆက်ဆံရေးနှင့် အဝေးရောက်မြန်မာများ၏ သံသယများ ရှိသော်လည်း TNR ရည်ရွယ်ချက်အတွက် အစိုးရ နှစ်ခု အကြား မကြာသေးမီကာလအတွင်း တိုက်ရိုက် ပူးပေါင်းဆောင်ရွက်သည့် အထောက်အထား အခိုင်အမာ မရှိသေးပေ။

တာ့ခ်ခရိုင်တွင် ဆေးရုံတင်ထားရသော ကရင် အမျိုးသား ကာကွယ်ရေး အဖွဲ့ KNDO မှ ဒဏ်ရာရအဖွဲ့ဝင် ၁၅ ဦးနှင့် PDF တို့၏ လှုပ်ရှားမှုများကို ထိထိရောက်ရောက် ထိန်းကျောင်းရန် လိုအပ်သလို အရေးယူဆောင်ရွက်ရန် ထိုင်းစစ်တပ်အား တောင်းဆိုခဲ့သည့် မြန်မာစစ်သံမှူး၏ ကြိုးပမ်းမှုကို ဖမ်းဆီးခြင်း သို့မဟုတ် လွှဲပြောင်းပေးခြင်းတို့ဖြင့် တုံ့ပြန်ခဲ့ခြင်း မရှိပေ။ ၂၀၂၃ ခုနှစ်လယ်တွင် မဲဆောက်နှင့် အခြားနေရာများတွင် အထောက်အထားမဲ့ ရွှေ့ပြောင်းနေထိုင်သူများကို မကြာခဏ စီးနင်းမှုများသည် မြန်မာစစ်အစိုးရ ၏ ဖိအားပေးမှုကြောင့် ဖြစ်နိုင်သလို အာဏာမလွှဲမီနှင့် လွှဲအပြီးတွင် လုပ်လေ့ရှိသော ပုံမှန်စီးနင်းမှုများသာ ဖြစ်နိုင်သည်။ အဆိုပါစီးနင်းမှုများကြောင့် နိုင်ငံရေးဒုက္ခသည်များ သို့မဟုတ် အတိုက်အခံများကို ထောင်သွင်းအကျဉ်းချခြင်းနှင့် ပြည်နှင်ဒဏ်ပေးခြင်း လုပ်ဆောင်ခဲ့သည်ဆိုသည့် သတင်းရေးသားမှုမျိုး မတွေ့ရပေ။

သို့ရာတွင် လေ့လာသူများက ထိုင်းနိုင်ငံ၏ ရည်မှန်းချက်များဖြစ်သော “ကောင်းမွန်သော ဆက်ဆံရေး” နှင့် နယ်စပ်ဒေသများတွင် ငြိမ်းချမ်းရေးနှင့် တည်ငြိမ်မှု ရှိရေးအတွက် အတင်းအဓမ္မ အနစ်နာခံစေသည်ဟု သဘောတူကြသည်။

စစ်အုပ်စုနှင့် ကောင်းမွန်သော ဆက်ဆံရေး ဆိုသည်မှာ တစ်စုံတစ်ဦးသည် ၎င်း၏ ရန်သူများနှင့် ပွင့်လင်းစွာ ကောင်းမွန်သော ဆက်ဆံရေးကို မထိန်းသိမ်းနိုင်ပေ။ မူဝါဒ ရပ်တည်မှုသည် ထိုင်းအစိုးရ၏ နိုင်ငံရေး ဒုက္ခသည်များ အပေါ် မူဝါဒနှင့် တည်ရှိမှုကို ငြင်းပယ်ခြင်း၊ ဒုက္ခသည်များအား ကာကွယ်မှုနှင့် အခွင့်အရေးများ အပေါ် တိုက်ရိုက် သက်ရောက်မှု ရှိပြီး လူများ၏ TNR ဖြစ်နိုင်ချေကို အဓိက ပေးသော အကြောင်းရင်းလည်း ဖြစ်သည်။ ထို့အပြင် လွန်ခဲ့သည့် နှစ်အနည်းငယ်အတွင်း မြန်မာစစ်တပ်၏ ကျုးကျော်မှုအားလုံး၏ အရေးပါမှုများကို ထိုင်းအစိုးရ၏ နှိမ့်ချခြင်းသည် TNR ဖြစ်နိုင်ခြေကို အထောက်အကူဖြစ်စေသော အချက်တစ်ချက်ဖြစ်သည်။

ဤနေရာတွင် ပူးပေါင်းဆောင်ရွက်မှုသည် အဆင့်မြင့်ကွပ်ကဲမှုအောက်ရှိ သို့မဟုတ် ပုဂ္ဂိုလ်ရေးဆိုင်ရာ အကျိုးအမြတ်အတွက်မဟုတ်ဘဲ ထိုင်းနိုင်ငံ၏ အကျိုးစီးပွားအတွက်ဖြစ်သည်ဟု ညွှန်းဆိုထားသော အဆင့်မြင့်တပ်မှူးတစ်ဦးမှ အသိအမှတ်ပြုထားသော ဒေသန္တရ ဆိုင်ရာ ရည်မှန်းချက်ပါသော တာဝန်ကို ရည်ညွှန်းသည်။

သုတေသနတွင် ပါဝင်သူများသည် မြို့နယ်အဆင့် နယ်ခြားကော်မီတီ၏ မကြာခဏတွေ့ဆုံမှုများနှင့် သံလွင်မြစ်ကမ်းတွင် ထိုင်းစစ်တပ်မှ လျှို့ဝှက်ဆန်းကြယ်သော ဆန်အိတ် ၇၀၀ ကို မြန်မာစစ်တပ်သို့ ပေးပို့ရာတွင် ထိုင်းစစ်တပ်က ပါဝင်သည်ဟူသော စွပ်စွဲချက်ကဲ့သို့ အခြား ဖြစ်ရပ်များ အပေါ် မကြာခဏ ထွက်ပေါ်လာလေ့ရှိသော မီဒီယာ သတင်းထုတ်ပြန်ချက်များကြောင့် ဒေသကွပ်ကဲမှုအဆင့်ရှိ ထိုင်းနှင့် မြန်မာကြား ဆက်ဆံရေးကောင်းမွန်ကြောင်း သတိပြုမိကြသည်။ အာဏာပိုင်များက မည်သူကမျှ အရင်းအမြစ်ကို အတည်မပြုပေးနိုင်သော လူစာရင်း နှင့်/သို့ ဓါတ်ပုံများဖြင့် အထူးသဖြင့် လူပုဂ္ဂိုလ် အတိအကျကို ပစ်မှတ်ထားပြီး ရဲရှာဖွေမှုများနှင့် ပူးပေါင်းတပ်ဖွဲ့များ၏ အကြိမ်ကြိမ် စီးနင်းမှုများ အကြောင်းကိုလည်း ၎င်းတို့ ကြားဖူးကြသည်။

မည်သို့ပင် ဖြစ်စေ ဒေသခံ အာဏာပိုင်များ၏ စစ်ဘေးဒုက္ခသည်များအပေါ် သတိထားမှု မရှိပဲ ဆက်ဆံမှုများသည် TNR ဆိုင်ရာ ဖြစ်ရပ်များ ဖြစ်ပွားလာစေနိုင်ကြောင်း နယ်စပ် အသံအဖွဲ့က လေ့လာတွေ့ရှိခဲ့သည်။ ဒေသခံ မီဒီယာ သတင်းထုတ်ပြန်ချက်တွင် ၂၀၂၂ ခုနှစ် ဇန္နဝါရီလ အတွင်းက ထိုင်းအရာရှိများက ယာယီ လုံခြုံရေး ဧရိယာအတွင်းရှိ ဒုက္ခသည်များအား စစ်ကောင်စီ၏ ယာယီ စခန်းသို့ တစ်ရက်လျှင် လူတစ်ရာကို ပြန်လည်ပို့ဆောင်မှာ ဖြစ်ပြီး သူတို့အား အိမ်ပြန်ပို့ခြင်း မပြုမီတွင် ပြန်မည့်သူအားလုံး၏ ကိုယ်ရေး အချက်အလက်များကို စီစစ်မည့် အစီအစည်ရှိကြောင်း ပြောပြသည် ။ နှစ်နိုင်ငံ အရာရှိများ၏ ပူးပေါင်းဆောင်ရွက်မှုသည် ရည်ရွယ်ချက်ရှိသည်ဖြစ်စေ မရှိသည်ဖြစ်စေ နိုင်ငံရေး ဒုက္ခသည်များအား ဘေးအန္တရာယ် ကြီးမားစွာ တွေ့ကြုံစေနိုင်ပြီး လူငယ် ရွာသားများကိုလည်း စစ်ဆေးမေးမြန်း ခံရမည့် ပစ်မှတ်များ ဖြစ်လာစေနိုင်သည်။

သတင်းရင်းမြစ်အချို့ ပြောပြသည့် နောက်ထပ် ဖြစ်ရပ်တစ်ခုကလည်း ထိုင်းစစ်တပ်နှင့် တိုင်းရင်းသား လက်နက်ကိုင် အဖွဲ့ တစ်ခုတို့က ဒုက္ခသည်များကို နယ်စပ်ဖြတ်ပြန်စေရန် ပူးပေါင်းဆောင်ရွက်မှုသည်လည်း စည်းကျော်လု နီး ဖြစ်သည်။

နယ်စပ် နှစ်ဘက်စလုံးမှ အာဏာပိုင်များသည် ထိုင်းနယ်မြေအတွင်းတွင် ဒုက္ခသည်များကို မလိုချင်ကြပေ။ စစ်ကောင်စီက မြန်မာ ရက်စက်ကြမ်းကြုတ်သော ရာဇဝတ်မှုများအတွက် သက်ရှိ အထောက်အထားကို မလိုအပ်သည့် အချိန်တွင် DKBA နှင့် BGF တို့က သူတို့ နယ်မြေများတွင် အရပ်သားနောက်ခံ လိုအပ်ကြသည်။ ထိုင်းစစ်တပ်၏ ရည်ရွယ်ချက် မည်သို့ ရှိသည်ဖြစ်စေ စီစဉ်ထားသော လုံခြုံသည့် နယ်မြေတွင် လက်နက်ကိုင် အဖွဲ့အစည်း ခေါင်းဆောင်တစ်ဦး စကားပြောဆိုခြင်းသည် ဒုက္ခသည်များအား မလုံမခြုံခံစားရစေပြီး လူအများကို ဆိတ်ငြိမ်စေသည့် စစ်ကောင်စီ၏ လိုလားချက်ကို တိုက်ရိုက် အားဖြည့်ပေးစေသည်။

ပုဂ္ဂလိက(များ)၏ အကျိုးစီးပွားများအတွက် ပုဂ္ဂလိက(များ) အဆင့်
PDF အဖွဲ့ဝင် ၃ ဦး၏ ဖြစ်ရပ်သည် မဲဆောက်ရှိ အဝေးရောက် မြန်မာများအကြား ကြောက်ရွံ့မှုကို လှုံ့ဆော်ပေးသည်။ သတင်း ထုတ်ပြန်ချက်အရ ၂၀၂၃ ခုနှစ် ဧပြီလ ၁ ရက်တွင် ထိုလူများ ဖမ်းဆီးခံရပြီး ဧပြီလ ၄ ရက်တွင် မဲဆောက် လဝက ရဲက BGF လက်ထဲသို့ လွှဲပြောင်းပေးခဲ့သည်။ သူတို့က ထွက်ပြေးရန် ကြိုးစားစဉ် တစ်ဦးမှာ သေဆုံးသည်ဟု သတင်းများက ဆိုသည်။ အခြား ဒဏ်ရရသွားသူ နှစ်ဦးမှာ စစ်ကောင်စီ ထောင်သို့ အပို့ခံရသည်၊ နယ်စပ် အသံအဖွဲ့၏ ဒေသခံ အရင်းအမြစ်များ၏ အဆိုအရ အခြား လုံခြုံရေး တပ်ဖွဲ့တစ်ခုက ပြန်လည်ပို့ဆောင်မှုကို ရပ်တန့်ရန်အတွက် “စကားပြော” ခဲ့သည်။ သို့ရာတွင် နောက်တကြိမ် လာရောက်တွေ့ဆုံပြီး နောက်ထပ် ဆွေးနွေးရန် ချိန်းဆိုထားသည့် နေ့တွင်ပင် အစောတလျင် လုပ်ဆောင်ခဲ့ခြင်းသည် ဖြစ်ရပ်မှာ ဖြစ်ရပ်တစ်ခုသာ မဟုတ်ပဲ နိုင်ငံတကာ နှင့် သက်ဆိုင်ပေသည်။

လေ့လာသူများ၏ အဆိုအရ ဤ ဖြစ်ရပ်တွင် အာဏာပိုင်တစ်ဦးသည် TNR အတွက် ပူးပေါင်းဆောင်ရွက်သည်ဟူသော သံသယ ရှိခြင်းမှာ ထိုင်းအာဏာပိုင်များက ကိုင်တွယ်လေ့ရှိသည့် နည်းလမ်းများနှင့် မတူညီခြင်းကြောင့် ဖြစ်သည်။ လူဝင်မှု ကြီးကြပ်ရေး ရဲအနေဖြင့် ထိုသူများကို ထိုမျှ မြန်မြန် ပိုဆောင်ရန် လိုအပ်ချက် မရှိပေ။ ပြန်လည်ပို့ဆောင်ရန် လမ်းကြောင်းအများအပြား ရှိသည့်အတွက် ထိုသူများကို BGF လက်သို့ အပ်နှံရန် မလိုအပ်ပေ။ ထို့အပြင် အလားတူ ဖြစ်ရပ် တစ်ခုလည်း နောက်တနေ့တွင် ဖြစ်ပွားကြောင်း သတင်းများ ထွက်သည်။ PDF အဖွဲ့ဝင် နှစ်ဦးမှာ ရရှိထားသော ဒဏ်ရာများ ကုသရန်အတွက် မဲဆောက်မှ မြောက်ဖက် ၃၆ ကီလိုမီတာတွင်ရှိသည့် မယ့်ရမက် ဆေးရုံသို့ ပို့ဆောင်ခံရသည်။ ထိုနေရာတွင် ထိုင်းအရာရှိ အုပ်စုတစ်ခုက ခေါ်ယူသွားပြီး မဲဆောက် လူဝင်မှု ကြီးကြပ်ရေး အချုပ်တွင် ထားထားသည်။ ကံကောင်းစွာပင် ပထမဖြစ်ရပ်၏ သတင်းများကြောင့် ဤ ဖြစ်ရပ်၏ သတင်းအချက်အလက်များ လျှင်မြန်စွာ ပြန့်နှံ့ခဲပြီး အေဂျင်စီ အမျိုးမျိုးတို့မှ ကြားဝင်ဆောင်ရွက်မှုများသည် အထောက်အကူ ဖြစ်ခဲ့ကြောင်း အစီရင်ခံချက်များအရ သိရသည်။

သုတေသန ပါဝင်သူများနှင့် အင်တာဗျူး ဖြေဆိုသော သက်ဆိုင်သူများ အဆိုအရ ထို ဖြစ်ရပ်နှစ်ခုမှာ စစ်ကောင်စီ နှင့်/သို့ BGF နှင့် အချို့သော ထိုင်း အရာရှိများအကြား ပုဂ္ဂိုလ်ရေး အကျိုးစီးပွားများ လဲလှယ်ရာတွင် ပုဂ္ဂလိက အဆင့်(များ) ပူးပေါင်းဆောင်ရွက်မှု ဖြစ်နိုင်ကြောင်း သံသယ ရှိသည်။

သွယ်ဝိုက်သက်ဆိုင်သော ဖြစ်ရပ်များ
မဲဆောက်ရှိ အဝေးရောက်မြန်မာများအပေါ် ချိုးဖောက်မှု ပုံစံအမျိုးမျိုး အတွင်းတွင် အမှန်တကယ်ရည်ရွယ်ချက် မဟုတ်သော်လည်း TNR ဖြစ်လာနိုင်ချေ သို့မဟုတ် ဖြစ်လာသည်ဟု ပြောဆိုနိုင်သော ဖြစ်ရပ်များ ရှိသည်။

ယင်းတို့တွင် ခြစားသော ထိုင်းအရာရှိများက စာရွက်စာတမ်း မရှိသော မြန်မာ ဒုက္ခသည်များနှင့် အတိုက်အခံများကို ငွေတောင်းခံယုံ သက်သက် ရည်ရွယ်ချက်ဖြင့်သာ ဖြစ်ပြီး အရေးယူရန် သို့မဟုတ် ပြန်လည် ပို့ဆောင်ရန်အတွက် မဟုတ်ပဲ ဖမ်းဆီးခြင်းလည်း ပါဝင်သည်။ ပါဝင်သူအားလုံးက သူတို့ ကိုယ်တိုင်ကြုံတွေ့ရသော သို့မဟုတ် သူတို့၏ အနီးကပ် မိတ်ဆွေများနှင့် မိသားစုဝင်များ ကြုံတွေ့ရသော တူညီသော အဖြစ်အပျက်များကို ဝေမျှကြသည်။ ဖမ်းဆီးခံရသူကို စကားပြန်က သို့မဟုတ် မှတဆင့် ထောင်ဂဏန်း အနည်းငယ်မှ သောင်းဂဏန်း ပေးရမည် သို့မဟုတ်ပါက သူ့ကို မြန်မာစစ်တပ်ကို တိုက်ရိုက်လွှဲပြောင်းမည်၊ နှိပ်စက်ခံရမည်၊ ထောင်ချခံရမည် သို့မဟုတ် သတ်ခံရမည်ဟု ပြောသည်။
မည်သူကမျှ မစွန့်စားရဲပါ၊ ထိုင်းအရာရှိများ၏ တာဝန်ခံက အတိုက်အခံများကို စစ်ကောင်စီ သို့မဟုတ် BGF လက်တွင်းသို့ မကြာသေးသော အချိန်အတွင်း ပေးပို့မှု ရှိသည်ဟု ယုံကြည်လျက် တစ်ဦးချင်းစီက အနည်းဆုံး တောင်းဆိုသော ပမာဏ၏ တစ်စိတ်တစ်ပိုင်းကို ပေးရသည်။

နယ်စပ် အသံအဖွဲ့က ဤကိစ္စရပ်နှင့် ပတ်သက်ရဲ့ သုတေသန ပါဝင်သူများထံမှ အသေးစိတ် ပြောဆိုချက်များကို မထည့်သွင်းရန် ဆုံးဖြတ်ခဲ့သည်။ ထိုင်းနိုင်ငံတွင် ဒုက္ခသည်များအတွက် တရားဝင် ကာကွယ်မှု မရှိသေးသမျှ ယင်းသည် ဝေမျှသူ မည်သူ ဆိုသည်ကို ပေါ်လွင်သွားစေပြီး နောက်ထပ် ဘေးအန္တရာယ်များက ကြုံတွေနိုင်မည်ကို စိုးရိမ်၍ ဖြစ်သည်။

ချိုးဖောက်မှု နောက်တစ်မျိုးမှာ ချိုးဖောက်ကျူးလွန်သူသည် မြန်မာနိုင်ငံမှ အာဏာပိုင်အဖွဲ့အစည်းတစ်ခုခုမှ အဖွဲ့ဝင် ဖြစ်သည် သို့မဟုတ် ဖြစ်သည်ဟု ပြောဆိုပါက ရာဇဝတ်မှု ဖြစ်သည်၊ အထက်ပါကဲ့သို့ပင် ထိုသို့သော ရာဇဝတ်မှုသည် တိတ်ဆိတ်စေရန်၊ ဖိအား သို့မဟုတ် အတိုက်အခံများကို ဖယ်ရှားရန် ရည်ရွယ်ချက် မရှိပါ။ သို့ရာတွင် မြန်မာနိုင်ငံတွင် အာဏာရှိသော သူများက ချိုးဖောက်ကျူးလွန်မှုများသည် ထိုင်းနိုင်ငံတွင် ရာဇဝတ်မှု ဖြစ်သည်။ ထိုချိုးဖောက်ကျူးလွန်သူသည် ပုံမှန်အားဖြင့် ရှင်သန်လွဝ်မြောက်သူ၏ ဥပဒေကြောင်းဆိုင်ရာ ထိရှလွယ်မှုကြောင့်သာမက ချိုးဖောက်ကျူးလွန်သူ၏ နယ်စပ် နယ်မြေတွင် ဩဇာလွမ်းမိုးမှုကြောင့် အရေးယူခံရခြင်း မရှိပါ။

บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของงานวิจัย “We Don’t feel Safe” ที่ว่าด้วยการปราบปรามข้ามชาติต่อชาวเมียนมาพลัดถิ่นในอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก โดยสามารถดาวน์โหลดงานวิจัยเป็นภาษาเมียนมาร์ และภาษาอังกฤษได้ตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายนนี้ (วันผู้ลี้ภัยสากล)

This article is a part of “We Don’t feel Safe” Participatory research on transnational repression against Myanmar diaspora In Mae Sot, Thailand. The full report in English and Burmese is available for download on World Refugee Day, 20 June 2024.

#WorldRefugeeDay#Worldrefugeeday2024#Refugee#TNR#transnationalrepression#WeDon‘tFeelSAFE

Related