เพื่อนข้างบ้าน: อัพเดทสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในเมียนมาร์ประจำสัปดาห์ [18 กุมภาพันธ์ 68]

กองทัพพม่าตอบโต้! ใช้ปืนใหญ่และอากาศยานถล่มจุดยืนของ AA ในพะโคและอาระกัน

กองทัพอาระกัน (AA) และกองกำลังต่อต้านพันธมิตรเข้ายึดฐานทัพของกองทัพพม่าใน Natsinkone และ Tawadaing ในเมือง Okeshitpin เขต Pandaung ภูมิภาค Bago เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดย Pandaung ตั้งอยู่ห่างจากเมืองหลวงภูมิภาค Bago ไปทางเหนือ 188 ไมล์ (302 กิโลเมตร)

ฐานที่มั่นทั้งสองแห่งอยู่ห่างจากศูนย์อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ (DDI) 6 หรือที่รู้จักในภาษาพม่าว่า KaPaSa 6 ซึ่งตั้งอยู่ในหมู่บ้าน Nyaung Chay Htauk ของ Pandaung ประมาณ 12 ไมล์ (19 กิโลเมตร) ศูนย์แห่งนี้ทำหน้าที่กลั่นวัตถุดิบเพื่อผลิตอาวุธและกระสุนให้กับกองทัพพม่า

“เราเปิดฉากโจมตีฐาน Natsinkone และ Tawadaing ตั้งแต่วันศุกร์ และสามารถยึดได้ในวันถัดมา” แหล่งข่าวที่ร่วมรบเคียงข้าง AA ให้ข้อมูลกับ DVB โดยขอไม่เปิดเผยตัวตน

กองกำลัง AA ควบคุมตัวทหารของรัฐบาลจำนวนหนึ่งที่หลบหนีไปยังฐานทัพในหมู่บ้านใกล้เคียง Nyaungkyo

ฐานทัพทั้งสองแห่งที่ AA เข้ายึดอยู่ระหว่างฐาน Nyaungkyo ซึ่งเป็นแนวป้องกันของ DDI 6 และอยู่ห่างจากหมู่บ้าน Nyaung Chay Htauk 10 ไมล์ (16 กิโลเมตร) กับฐาน Pakankwalkya ใน Pandaung ซึ่ง AA ยึดไปเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์

หาก AA สามารถเข้าควบคุมฐาน Nyaungkyo ได้สำเร็จ จะเป็นภัยคุกคามสำคัญต่อ DDI 6 นักวิเคราะห์ด้านความขัดแย้งให้ข้อมูลกับ DVB ขณะเดียวกัน กองทัพและกองทัพอากาศพม่าได้ยิงปืนใหญ่และโจมตีทางอากาศใส่ที่มั่นของ AA ใน Bago

ในรัฐอาระกัน สำนักข่าว Narinjara รายงานว่า กองทัพพม่าใช้ปืนใหญ่และโจมตีทางอากาศใส่ฐานที่มั่นของ AA ใน Kyaukphyu หลังจากที่กองกำลัง AA เข้าโจมตีฐานทัพเรือ Danyawaddy เมื่อวันศุกร์

ฐานทัพเรือตั้งอยู่ห่างจากตัวเมือง Kyaukphyu ซึ่งเป็นที่ตั้งของท่าเรือน้ำลึกที่ได้รับทุนสนับสนุนจากจีน 4 ไมล์ (6 กิโลเมตร) โดยเมืองนี้ยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลพม่า Kyaukphyu ตั้งอยู่ห่างจากเมืองหลวงของรัฐอาระกัน Sittwe ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ 318 ไมล์ (511 กิโลเมตร)

“กองทัพใช้โดรนและอาวุธหนักโจมตีพื้นที่ใกล้หมู่บ้านและภูเขาในวันถัดมาหลังการโจมตีของ AA” ชาวบ้าน Kyaukphyu ให้ข้อมูลกับ Narinjara News

ชาวบ้านใน Kyaukphyu ยังเผยว่า กองทัพพม่าขู่จะยิงพลเรือนในหมู่บ้าน Thitpotetaung ซึ่งอยู่ใกล้ฐานทัพเรือ Danyawaddy หากมีใครพยายามหลบหนีออกจากพื้นที่

AA ยังสามารถสังหารทหารฝ่ายรัฐบาลจำนวนหนึ่งและยึดอาวุธจากกองพันตำรวจที่ 32 ใน Kyaukphyu เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์

ขณะนี้ AA ควบคุม 14 จาก 17 เมืองในรัฐอาระกัน โดยเมือง Kyaukphyu, Sittwe และ Manaung เป็นเพียงสามเมืองที่ยังอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาล กองกำลัง AA ยังขยายแนวรบจากรัฐอาระกันไปยังภูมิภาค Ayeyarwady, Bago และ Magway ตั้งแต่เดือนที่แล้ว

ที่มา: DVB English

PDF เผยกองทัพพม่ายังบินวนเหนือ Myaing หลังโจมตีทางอากาศถล่มงานแต่ง

ชาวเมือง Myaing ให้ข้อมูลกับ DVB ว่ามีผู้เสียชีวิตกว่า 20 รายจากการโจมตีทางอากาศโดยกองทัพอากาศพม่า ในระหว่างพิธีแต่งงานที่หมู่บ้าน Sonkon ในเมือง Myaing เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา Myaing ตั้งอยู่ห่างจากเมืองหลวงภูมิภาค Magway ไปทางเหนือ 130 ไมล์ (209 กิโลเมตร)

“เรายังคงตรวจสอบจำนวนผู้เสียชีวิตที่แน่นอน ขณะนี้เครื่องบินของกองทัพยังคงบินวนอยู่เหนือพื้นที่” โฆษกกองกำลังป้องกันประชาชน (PDF) ให้ข้อมูลกับ DVB โดยระบุว่าพิธีแต่งงานที่ถูกโจมตีเป็นของสมาชิกคนหนึ่งในกลุ่ม PDF พร้อมเรียกร้องให้ชาวบ้านหลีกเลี่ยงการรวมกลุ่มและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันภัยทางอากาศ

ทีมกู้ภัยได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุใน Myaing ขณะที่กองทัพพม่าได้เปิดฉากโจมตีตอบโต้กองกำลังต่อต้านในหมู่บ้านตามแนวถนน Pakokku-Myaing ตั้งแต่เดือนที่แล้ว

สื่อของรัฐบาลยังไม่รายงานเกี่ยวกับการโจมตีทางอากาศใน Myaing ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของฝ่ายต่อต้านตั้งแต่เดือนกันยายน

ที่มา: DVB English

PNA บังคับชาว Pa-O ส่งญาติกลับมารับใช้กองทัพ ขู่ขับไล่-ปิดบ้านหากไม่ปฏิบัติตาม

กองทัพแห่งชาติ Pa-O (PNA) ซึ่งสนับสนุนรัฐบาลทหาร ถูกกล่าวหาว่าข่มขู่ชาวเมือง Hopong ในเขตปกครองตนเองของชาว Pa-O ทางตอนใต้ของรัฐฉาน โดยขู่ว่าจะขับไล่ออกจากพื้นที่และปิดบ้านของพวกเขาหากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งให้สมาชิกในครอบครัวที่อาศัยอยู่ต่างประเทศเดินทางกลับมารับใช้ PNA

“พวกเขาบอกว่าชาว Pa-O ทุกคนต้องรู้หน้าที่ของตัวเอง” ชาว Hopong คนหนึ่งให้ข้อมูลกับ DVB โดยขอไม่เปิดเผยตัวตน หลังการประชุมของ PNA กับชาวบ้านในพื้นที่ Lweon เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์

Hopong ตั้งอยู่ทางตะวันออกของเมืองหลวงรัฐฉาน Taunggyi 13 ไมล์ (20 กิโลเมตร) โดยเขตปกครองตนเองของชาว Pa-O ประกอบด้วย 3 เมือง ได้แก่ Hopong, Hsihseng และ Pinlaung โดยสองเมืองหลังอยู่ห่างจาก Taunggyi ไปทางใต้ 59-67 ไมล์ (94-107 กิโลเมตร) และอยู่ทางเหนือของเมืองหลวงรัฐกะเหรี่ยงแดง Loikaw 38-55 ไมล์ (61-88 กิโลเมตร)

กองทัพปลดแอกแห่งชาติ Pa-O (PNLA) ซึ่งเป็นกองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์ที่ร่วมรบกับกลุ่มต่อต้านรัฐบาลทหารในรัฐกะเหรี่ยงแดง ให้ข้อมูลกับ DVB ว่า PNA กำลังบังคับเกณฑ์ชายชาว Pa-O เข้าเป็นทหาร

Khun Rein Yan โฆษกของ PNLA ระบุว่ามีชาว Pa-O จำนวนมากถูกสังเวยชีวิตจากการสู้รบในนามของ PNA

“PNA ใช้ชาว Pa-O เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง” เขากล่าวกับ DVB โดย PNLA มีปฏิบัติการในเมือง Hsihseng, Hopong และ Mawkmai ทางตอนใต้ของรัฐฉาน ซึ่ง Mawkmai ตั้งอยู่ห่างจาก Taunggyi ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ 132 ไมล์ (212 กิโลเมตร) และอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของ Loikaw

พรรค Pa-O National Organization (PNO) ได้ลงนามในข้อตกลงหยุดยิงทั่วประเทศ (NCA) กับรัฐบาลทหารพม่าในปี 1991 และได้ร่วมรบเคียงข้างกองทัพพม่าต่อต้านฝ่ายต่อต้านในรัฐฉานใต้ นับตั้งแต่รัฐประหารปี 2021

ที่มา: DVB English

กองทัพพม่าทิ้งบอมบ์ Falam โรงพยาบาลเขตวอดทั้งหลังกลางสมรภูมิรบ

การโจมตีทางอากาศโดยรัฐบาลทหารในเมือง Falam เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ก่อให้เกิดเพลิงไหม้ครั้งใหญ่เผาทำลายโรงพยาบาลประจำเขต ท่ามกลางการสู้รบอย่างหนักระหว่างกองทัพพม่ากับกองกำลังต่อต้านในพื้นที่ทางตอนเหนือของรัฐชิน ประเทศเมียนมาร์

กองกำลัง Chin Brotherhood ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มต่อต้านท้องถิ่นจาก Falam, Tedim, Matu และ Mindat ได้เปิดปฏิบัติการเพื่อยึดคืนเมือง Falam จากการยึดครองของรัฐบาลทหาร อย่างไรก็ตาม การสู้รบที่ยังคงดำเนินอยู่ชี้ให้เห็นว่าพื้นที่บางส่วนของเมืองยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพพม่า

ที่มา: Chindwin News on X

องค์กรสิทธิฯ ชี้ข้อจำกัดขนส่งยารักษาโรคในเมียนมาร์คือ “อาชญากรรมสงคราม”

การจำกัดการขนส่งยาโดยรัฐบาลทหารในพื้นที่สงครามของพม่า ได้แก่ รัฐ Rakhine, Chin และภูมิภาค Sagaing ทางตอนเหนือและตะวันตก ส่งผลให้พลเรือนผู้พลัดถิ่นขาดแคลนยา ท่ามกลางการระบาดของโรคต่างๆ แหล่งข่าวให้ข้อมูลกับ RFA Burmese

มาตรการดังกล่าวเป็นความพยายามล่าสุดของรัฐบาลทหารในการป้องกันไม่ให้เวชภัณฑ์ไปถึงกลุ่มกบฏที่สู้รบกับรัฐบาล นับตั้งแต่การทำรัฐประหารในเดือนกุมภาพันธ์ 2021

อย่างไรก็ตาม องค์กรสิทธิมนุษยชนระบุว่าการห้ามขนส่งยาส่งผลกระทบต่อพลเรือนเป็นหลัก และถือเป็น “อาชญากรรมสงคราม”

ตามข้อมูลของสหประชาชาติเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ สงครามกลางเมืองในพม่าทำให้มีผู้พลัดถิ่นภายในประเทศมากกว่า 3.5 ล้านคน

เฉพาะในพื้นที่ตอนใต้ของเมือง Kalay ในภูมิภาค Sagaing มีผู้พลัดถิ่นมากกว่า 10,000 คน กำลังป่วยด้วยโรคท้องร่วงและโรคผิวหนัง แหล่งข่าวในพื้นที่ให้ข้อมูลกับ RFA เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

“เนื่องจากสภาพความเป็นอยู่ที่ย่ำแย่และขาดสุขอนามัย ผู้พลัดถิ่นมีความเสี่ยงสูงต่อโรคตามฤดูกาล และต้องการยาอย่างเร่งด่วน” แหล่งข่าวกล่าว โดยขอไม่เปิดเผยตัวตนด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย

ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ชาวบ้านระบุว่ามีผู้พลัดถิ่นกว่า 200 คน ป่วยด้วยอาการท้องร่วง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย นอกจากนี้ เส้นทางไปยังหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบ 3 แห่งถูกจำกัดการเดินทางโดยรัฐบาลทหาร

ที่มา: Radio Free Asia

NUG เดินหน้าต่อต้านรัฐบาลทหาร แบล็กลิสต์นักการทูตเมียนมาร์ที่ให้ความร่วมมือ-ไทยโดนด้วย

รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติพม่า (National Unity Government – NUG) ได้ประกาศขึ้นบัญชีดำ (Blacklisted) นักการทูตของรัฐบาลทหาร 30 ราย ที่ประจำอยู่ในหลายประเทศทั่วโลก ฐานให้ความร่วมมือกับรัฐบาลทหารพม่า โดยมีบทบาทในการกดดันและจำกัดสิทธิแรงงานข้ามชาติชาวเมียนมาร์ รวมถึงสนับสนุนการเกณฑ์ทหารของรัฐบาลทหาร

รายชื่อนักการทูตที่ถูกขึ้นบัญชีดำประกอบด้วยเอกอัครราชทูตและกงสุลของรัฐบาลทหารที่ประจำการใน ปากีสถาน มาเลเซีย อินโดนีเซีย รัสเซีย ฝรั่งเศส แอฟริกาใต้ ซาอุดีอาระเบีย อิตาลี เกาหลีใต้ ลาว บรูไน คิวบา สหราชอาณาจักร ฟิลิปปินส์ เยอรมนี อินเดีย สหรัฐอเมริกา จีน เซอร์เบีย บังกลาเทศ เนปาล กัมพูชา สิงคโปร์ อิสราเอล ไทย และเบลารุส

NUG ซึ่งเป็นรัฐบาลคู่ขนานของเมียนมาร์และได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มต่อต้านรัฐบาลทหาร ระบุว่า นักการทูตเหล่านี้มีบทบาทในการให้ความช่วยเหลือรัฐบาลทหารในการควบคุมและกดดันแรงงานพม่าในต่างประเทศ รวมถึงการสนับสนุนโครงการเกณฑ์ทหาร ซึ่งเป็นมาตรการที่รัฐบาลทหารนำมาใช้เพื่อเสริมกำลังพลท่ามกลางความขัดแย้งภายในประเทศที่ยืดเยื้อ

การขึ้นบัญชีดำครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในความพยายามของ NUG ในการลดอิทธิพลของรัฐบาลทหารพม่าในเวทีระหว่างประเทศ และสร้างแรงกดดันให้ประชาคมโลกปฏิเสธความชอบธรรมของรัฐบาลทหารเมียนมาร์

ที่มา: The Irrawaddy on Facebook