บ้าน

บ้าน

“ฉันยกที่ดินตรงนี้ให้ ไม่เอาเงินหรอก ปลูกบ้านที่นี่แหละ” ป้ามึจิ ยกคำพูดของเจ้าของที่ดิน เพื่อเล่าความหลังเกี่ยวกับที่ดินที่แกปลูกบ้านอยู่ให้ผมฟังด้วยความน้อยใจ เพราะเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาเจ้าของที่ขายที่ดินกับนายทุนในเมือง โดยที่ไม่บอกให้แกรู้เลยสักคำ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาเคยบอกยกที่ดินแคบ ๆ ท้ายแปลงให้แกปลูกบ้าน …

Read more บ้าน

นิทานก่อนนอน

นิทานก่อนนอน

“ถ้าหนูดื้อ หนูจะกลายเป็นนกกระปูดที่ร้อง โมเฮอ โมเฮอ… นะ รู้ไหม” หญิงผู้เป็นแม่ปรามลูกสาวตัวน้อยที่กำลังเล่นซนลากเก้าอี้ไปมา ผมหันมองแม่ลูกคู่หนึ่งที่เดินทางมาร่วมงานนมัสการพระเจ้า ณ บ้านไม้เก่าแก่ริมฝั่งแม่น้ำสาละวินหลังนี้เช่นเดียวกับผม …

Read more นิทานก่อนนอน

เด็กนักเรียนก็ไปเรียนแบบต้องระมัดระวังมากขึ้นทั้งเครื่องบินและน้ำท่วม

เด็กนักเรียนก็ไปเรียนแบบต้องระมัดระวังมากขึ้นทั้งเครื่องบินและน้ำท่วม

“เด็กนักเรียนก็ไปเรียนแบบต้องระมัดระวังมากขึ้นทั้งเครื่องบินและน้ำที่มีปริมาณสูงขึ้นเรื่อยๆ อีกอย่างปีนี้ข้าวไม่ดีเลยต้นข้าวเสียเหลืองแก่และแดงทำให้ต้องทิ้งไปเยอะ” บทสนทนากับคุณลุงผู้ดูแลหอพัก Lu Thaw Paw Day ก่อนน้ำจะท่วมพื้นที่ค่ายอิตูท่า หอพัก Lu …

Read more เด็กนักเรียนก็ไปเรียนแบบต้องระมัดระวังมากขึ้นทั้งเครื่องบินและน้ำท่วม

ซันโว: ทศวรรษของการนำศาสตร์การละครสื่อสารเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง

ซันโว: ทศวรรษของการนำศาสตร์การละครสื่อสารเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง

นี่คือดาวอีกดวงที่กำลังฉายแสงในวงวารการเคลื่อนไหว และวงนักการละครเชียงใหม่ ซันโว-ธันย์รัตนราม ชีพนุรัตน์ คือนักการละครอิสระ ผู้จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยขอนแก่นในฐานะนักศึกษาการละครรุ่นแรก จนมาถึงการเดินกว่า 10 ปีในโลกการละคร การเป็นคนละครคนหนึ่งที่ยังคงทำงานอย่างแข็งขัน …

Read more ซันโว: ทศวรรษของการนำศาสตร์การละครสื่อสารเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง

อัพเดทสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในเมียนมาร์ประจำเดือนกันยายน 67: อย่าลืมเพื่อนเรา

อัพเดทสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในเมียนมาร์ประจำเดือนกันยายน 67: อย่าลืมเพื่อนเรา

วลพ. แสดงความเป็นห่วง หลังกรณีศธ.สุราษฏร์ธานี สั่งปิดศูนย์มิตตาเย๊ะ เยาวชนเมียนมาร์หลุดจากระบบฯ นับพัน จากกรณีที่สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดสุราษฏร์ธานี สั่งปิดศูนย์การเรียนมิตตาเย๊ะบางกุ้งเมื่อวันที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา …

Read more อัพเดทสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในเมียนมาร์ประจำเดือนกันยายน 67: อย่าลืมเพื่อนเรา

พ่อแม่ไม่รักผม

พ่อแม่ไม่รักผม

ฤดูฝนเวียนมาอีกครั้ง คนปกาเกอะญอมุ่งหน้าไปยังนาไร่บนดอยในขณะที่ลูกหลานหิ้วกระเป๋าไปโรงเรียน ผมนั่งอยู่บนชานบ้านหลังน้อย สายฝนที่โปรยปราย กิ่งไม้ที่ไหวด้วยสายลม และแสงฟ้าแปลบปลาบจาง ๆ บนผืนฟ้าไกล พาให้ใจให้หวนกลับไปยังวันเวลาหนึ่งเนิ่นนานมาแล้ว วันแรกที่ผมได้ไปโรงเรียนนั้นเป็นฤดูฝน ผมเติบโตขึ้นมาในหมู่บ้านในป่าเขาของรัฐกะเหรี่ยง ประเทศพม่า ที่นั่นไม่มีโรงเรียน ถึงวัยเรียนแล้วผมก็ยังวิ่งเล่นอยู่ จนกระทั่งวันหนึ่งที่ฝนโปรยปรายลงมาเหมือนวันนี้ ผมอายุได้เกือบสิบขวบ แม่ก็ห่อเสื้อผ้าผมด้วยผ้าอ้อมของน้อง แล้วพาผมออกเดินดอยไปหาป้าที่อยู่ในหมู่บ้านใหญ่แห่งหนึ่ง แม่พาผมไปหาป้า แล้วก็พาผมไปฝากไว้ที่โรงเรียน จากนั้นแม่ก็แอบกลับไป เย็นวันนั้นพอโรงเรียนเลิก ผมวิ่งกลับมาที่บ้านป้าแล้วถามหาแม่ พอป้าบอกว่าแม่กลับบ้านไปแล้วและผมต้องอยู่ที่นี่เพื่อจะได้มีโอกาสเรียนหนังสือ ผมก็ร้องไห้โฮ ปากโวยวายทั้งน้ำตาว่าแม่ไม่รักผม จึงได้ทิ้งผมไว้แบบนี้ ผมคร่ำครวญให้ป้าพากลับไปหาแม่ ในที่สุดป้าก็ใจอ่อน พาผมเดินดอยหลายชั่วโมงกลับไปบ้าน พ่อแม่ของผมพยายามเกลี้ยกล่อมให้ผมกลับไปอยู่กับป้า แต่มิใยที่พวกเขาจะพร่ำบอกว่าการศึกษานั้นสำคัญแค่ไหน ผมก็อาละวาดยืนกรานว่าจะไม่ไปไหนทั้งนั้น ในที่สุด ผมจึงไปโรงเรียนที่ว่าได้เพียงวันเดียว จากนั้นไม่นาน สงครามระหว่างกองทัพรัฐบาลพม่าและกองกำลังกะเหรี่ยงกู้ชาติก็เคลื่อนเข้ามาใกล้หมู่บ้านของเรา กองทัพพม่าออกคำสั่งให้หมู่บ้านผมย้ายไปยังเขตที่พวกเขาควบคุมเเพราะกลัวเราจะสนับสนุนทหารกะเหรี่ยง แน่นอนว่าไม่มีใครอยากไปอยู่ในพื้นที่ควบคุมอย่างนั้น พ่อแม่ของผมตัดสินใจทิ้งบ้านและไร่นาของเราเพื่อหนีมาชายแดน เรามาอยู่ที่ชุมชนคนพลัดถิ่นในพม่าชื่อ “ป้อปาท่า” ติดฝั่งไทย ไม่ไกลจากค่ายผู้ลี้ภัยโชโกลในอำเภอท่าสองยางมากนัก ตอนนั้นค่ายผู้ลี้ภัยยังไม่ทำทะเบียนรับคนมาใหม่ เราจึงพักอยู่ที่ “ป้อปาท่า” กันไปก่อน ที่ป้อปาท่านี้เอง ผมได้เริ่มไปเรียนหนังสือจริงจัง แต่ก็ไม่ต่อเนื่องอยู่ดี เพราะค่ายพักนี้อยู่ในฝั่งพม่า เมื่อไรก็ตามที่การสู้รบใกล้เข้ามา พวกเราก็ต้องหนีไปซ่อนตัวในป่า หรือหนีมาฝั่งไทย ซึ่งเมื่อทหารไทยรู้ว่าทหารพม่ากลับไปแล้ว เขาก็จะมาบอกให้เรากลับไป เมื่อทหารพม่ามาอีก เราก็ต้องหนีอีก ผมเรียนไปหนีไปอยู่แบบนั้นทั้งปี จนกระทั่งฤดูฝนปีนั้น ฝนตกหนักและฟ้าแลบแปลบปลาบเหมือนวันนี้ น้ำหลากจนไม่มีที่หลบภัยในฝั่งพม่า เราก็ข้ามแม่น้ำเมยเข้ามาแอบอยู่ในซอกผาตีนดอยใหญ่ในประเทศไทยอีกครั้ง ขณะที่หลบอยู่ที่นั่น น้าสาวคนเล็กของผมซึ่งเป็นผู้ลี้ภัยอยู่แถว ๆ อำเภอพบพระก็มาตามหา สมัยนั้นเจ้าหน้าที่ไทยไม่เข้มงวดกับการเดินทางของผู้ลี้ภัยนัก แกเลยหาเราเจอได้ไม่ยาก น้าสะเทือนใจที่เห็นพวกเราต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ แถมผมกับพี่น้องก็ไม่ได้เรียนหนังสือ แกเลยว่าจะพาพี่สาวกับผมไปด้วยกัน พี่สาวผมจะได้ไปอยู่กับน้า ส่วนผมจะต้องไปอยู่กับญาติของเราอีกคนที่ค่าย ผู้ลี้ภัยห้วยกะโหลก อำเภอแม่สอด ผมมองแม่ยัดกางเกงปะตูดกับเสื้อตัวเก่าสีมอ ๆ สองชุดลงในย่าม คราวนี้ผมไม่ได้อาละวาด ยอมขึ้นรถไปกับน้าโดยดี ในใจก็อยากไปเรียนหนังสือสบาย ๆ ไม่ต้องหลบหนีอยู่แบบนี้ บางทีผมคิดว่าที่ที่จะไปนั้นน้าบอกว่านั่งรถแค่สามชั่วโมง ผมคงไปมาหาพ่อแม่ได้ง่าย ๆ ด้วย วันรุ่งขึ้นป้าที่ผมไปอยู่ด้วยพาผมไปฝากเข้าโรงเรียนในค่ายผู้ลี้ภัยห้วยกะโหลก ครูจัดให้ผมไปเข้าห้องป.หนึ่ง ผมเดินเข้าห้องไปเจอครูกำลังเขียนตัวหนังสือฝรั่ง ผมมองมันอย่างงุนงง ใจเต้นตูมตาม แอบนึกในใจว่า แย่แล้วเรา เขียนหนังสือตามเขาไม่ได้สักตัว ถึงเวลาพักเที่ยง ผมต้องเดินกลับไปกินข้าวบ้านป้า แต่ผมจำทางไม่ได้ ค่ายผู้ลี้ภัยห้วยกะโหลกใหญ่โตกว่าหมู่บ้านทุกแห่งที่ผมเคยไป ผมจึงนั่งแอบอยู่แถว ๆ โรงเรียนจนถึงบ่าย ตอนที่เดินกลับเข้าห้องเรียน ผมรู้ว่าเพื่อนบางคนจ้องมองผม มีบางคนส่งเสียงหัวเราะคิกคักด้วย เขาคงหัวเราะกางเกงตูดปะของผมแน่ ๆ ผมลงนั่งที่เก้าอี้ตัวเดิม แต่แล้วก็มีครูอีกคนเดินเข้ามาบอกว่า ผมต้องไปเริ่มเรียนชั้นอนุบาลหนึ่ง ไม่ใช่ป.หนึ่ง  ผมเดินตามครูคนนั้นไปนั่งในห้องอนุบาลหนึ่งกับเด็กเล็ก จนตอนเย็นครูก็มาคุยด้วยเพื่อตรวจสอบพื้นฐานความรู้ของผมอีกแล้วก็สรุปว่า ผมพอจะรู้จักตัวหนังสือกะเหรี่ยงบ้าง ดังนั้น ผมจึงควรไปเรียนชั้นอนุบาลสอง ป้ามารับตอนโรงเรียนเลิก ผมไม่ได้เล่าให้ป้าฟังเลยว่าวันนี้ผมถูกลดชั้นไปอนุบาลหนึ่งและพรุ่งนี้จะไปเรียนชั้นอนุบาลสอง ผมบอกป้าแต่ว่า ไปส่งผมหาพ่อกับแม่เถอะ ผมไม่รู้หนังสือเลยและผมควรจะกลับไปเรียนที่ป้อปาทะมากกว่า แต่ป้าไม่ว่าอะไรสักคำ วันรุ่งขึ้นแกบอกให้ผมเก็บเสื้อผ้าที่ขนมาจากบ้านไว้ แล้วเอาเสื้อผ้าชุดใหม่มาให้ใส่ไปโรงเรียน ป้าเข้าไปคุยกับครูอีกที ผลปรากฎว่าผมถูกจัดให้ไปเรียนอนุบาลหนึ่งเหมือนเมื่อวาน แล้วตอนเย็นก็จะต้องไปเรียนพิเศษที่บ้านของครูทุกวัน  ผ่านไปเกือบสองเดือน พ่อกับแม่ผมก็มาเยี่ยม ผมดีใจมาก ไม่ยอมอยู่ห่างพวกเขาเลย ไม่ยอมไปเรียนหนังสือด้วย ใครจะว่ายังไงก็ไม่ฟัง พอพ่อแม่บอกว่าจะกลับ ผมก็ร้องไห้จะตามกลับ จนในที่สุดพวกเขาก็หลอกว่าจะเดินไปบ้านคนรู้จักเดี๋ยวเดียว แล้วก็หายกลับบ้านไป ผมแอบร้องไห้อยู่คนเดียวหลายวัน คิดว่าพ่อแม่ไม่รักผมถึงได้เอาผมมาปล่อยไว้แบบนี้ พ่อแม่ไม่สงสารผมเลยที่ผมต้องมาอยู่อย่างอับอายที่นี่ ผมคิดเคียดแค้นตามประสาเด็กว่า คอยดูเถอะ ถ้าเรียนจบออกจากที่นี่ไปเมื่อไหร่ ผมจะไม่ไปช่วยงานพ่อแม่เด็ดขาด …

Read more พ่อแม่ไม่รักผม

อัพเดทสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในเมียนมาร์ประจำเดือนสิงหาคม-กันยายน 2567: อย่าลืมเพื่อนเรา

อัพเดทสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในเมียนมาร์ประจำเดือนสิงหาคม-กันยายน 2567: อย่าลืมเพื่อนเรา

อย่างที่หลายคนทราบว่า สถานการณ์ความไม่สงบในเมียนมาร์ยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ระหว่างฝ่ายรัฐบาลและกองกำลังต่างๆ ที่นำไปสู่ความเสียหายอย่างรุนแรง การลิดรอนสิทธิของนักโทษทางการเมืองในเรือนจำ รวมถึงการใช้สิทธิ์ ใช้เสียงของตัวเองเพื่อประชาธิปไตยในเมียนมาร์ เพื่อนไร้พรมแดนสรุปสถานการณ์สำคัญทั้งสถานการณ์-การต่อสู้ รวมถึงการลิดรอนสิทธิที่รัฐบาลเมียนมาร์ทำกับประชาชนไว้ในโพสต์นี้ เพื่อให้คุณได้เข้าใจฉากทัศน์ของเหตุการณ์ทั้งหมดได้มากขึ้น …

Read more อัพเดทสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในเมียนมาร์ประจำเดือนสิงหาคม-กันยายน 2567: อย่าลืมเพื่อนเรา

Kelvin Shine Ko จากเมียนมาร์สู่เชียงใหม่ ผู้ไปต่อเรื่องการเคลื่อนไหวด้วย Performance Art

Kelvin Shine Ko จากเมียนมาร์สู่เชียงใหม่ ผู้ไปต่อเรื่องการเคลื่อนไหวด้วย Performance Art

เป็นอีกครั้งที่เราเล่าเรื่องศิลปินที่ใช้ศาสตร์การละครในการขับเคลื่อนประเด็นทางสังคม แต่คราวนี้เขาคือศิลปินที่มาจากเมียนมาร์ และว่าก็ว่า เขาเป็นนักการละครดาวรุ่งที่กำลังเฉิดฉายในสายการละครเชียงใหม่ เพราะไม่กี่ครั้งที่เขาขึ้นแสดง ก็ได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้ชมและวงสังคมของนักกิจกรรม Kelvin Shine Ko คือนักศึกษาที่ย้ายเขตคามจากเมียนมาร์เข้ามาอยู่ในมหานคร …

Read more Kelvin Shine Ko จากเมียนมาร์สู่เชียงใหม่ ผู้ไปต่อเรื่องการเคลื่อนไหวด้วย Performance Art

อัพเดทสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในเมียนมาร์ประจำเดือนสิงหาคม 67: อย่าลืมเพื่อนเรา

อัพเดทสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในเมียนมาร์ประจำเดือนสิงหาคม 67: อย่าลืมเพื่อนเรา

อย่างที่หลายคนทราบว่า สถานการณ์ความไม่สงบในเมียนมาร์ยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ระหว่างฝ่ายรัฐบาลและกองกำลังต่างๆ ที่นำไปสู่ความเสียหายอย่างรุนแรง การลิดรอนสิทธิของนักโทษทางการเมืองในเรือนจำ รวมถึงการใช้สิทธิ์ ใช้เสียงของตัวเองเพื่อประชาธิปไตยในเมียนมาร์ เพื่อนไร้พรมแดนสรุปสถานการณ์สำคัญทั้งสถานการณ์-การต่อสู้ รวมถึงการลิดรอนสิทธิที่รัฐบาลเมียนมาร์ทำกับประชาชนไว้ในโพสต์นี้ เพื่อให้คุณได้เข้าใจฉากทัศน์ของเหตุการณ์ทั้งหมดได้มากขึ้น …

Read more อัพเดทสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในเมียนมาร์ประจำเดือนสิงหาคม 67: อย่าลืมเพื่อนเรา

วันดีวันร้ายวันไหน ผมก็คือครู

วันดีวันร้ายวันไหน ผมก็คือครู

เพราะการสู้รบที่ชายแดนประเทศพม่าเมื่อเดือนมิถุนายน 2552 ผมต้องอพยพย้ายถิ่นที่อยู่และหยุดงานสอนหนังสือ โรงเรียนเก่าของผมถูกยึดและแปลงสภาพไปเป็นที่พักทหาร นักเรียนเก่าของผมกระจัดกระจายกันไปในฝั่งไทยและฝั่งพม่า ตัวผมกลับมาอยู่ที่บ้านเพื่อดูแลลูกเล็ก ๆ ทั้งสามอยู่เงียบ ๆ เพื่อนหลายคนทะยอยโทรศัพท์มาหา ไถ่ถามว่าผมทำงานอะไรอยู่ เมื่อตอบไปว่าผมอยู่บ้านช่วยภรรยาเลี้ยงลูก …

Read more วันดีวันร้ายวันไหน ผมก็คือครู

ข้อแนะนำสำหรับหน่วยงานภาคประชาสังคม และองค์กรนานาชาติ เพื่อชาวเมียนมาร์พลัดถิ่นในแม่สอด

ข้อแนะนำสำหรับหน่วยงานภาคประชาสังคม และองค์กรนานาชาติ เพื่อชาวเมียนมาร์พลัดถิ่นในแม่สอด

ข้อแนะนำเพื่อป้องกันไม่ให้ TNR เกิดขึ้นในประเทศไทยและเพื่อปกป้องผู้พลัดถิ่นชาวเมียนมาร์จากการตกเป็นเหยื่อของ TNR ถูกเก็บรวบรวมจากแต่ละบุคคลและจากการประชุมระดมความคิดของผู้เข้าร่วมการวิจัยและทีม Border Voices ต้องเน้นว่าข้อแนะนำดังต่อไปนี้มีขอบเขตเฉพาะเกี่ยวกับปัญหา TNR เท่านั้น …

Read more ข้อแนะนำสำหรับหน่วยงานภาคประชาสังคม และองค์กรนานาชาติ เพื่อชาวเมียนมาร์พลัดถิ่นในแม่สอด

อัพเดทสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในเมียนมาร์ประจำเดือนกรกฎาคม 67

อัพเดทสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในเมียนมาร์ประจำเดือนกรกฎาคม 67

อย่างที่หลายคนทราบว่า สถานการณ์ความไม่สงบในเมียนมาร์ยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ระหว่างฝ่ายรัฐบาลและกองกำลังต่างๆ ที่นำไปสู่ความเสียหายอย่างรุนแรง รวมถึงภาวะขาดแคลนปัจจัยพื้นฐานของประชาชน อีกทั้งการที่มีผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก และมีผู้ลี้ภัยออกจากประเทศอย่างต่อเนื่อง จึงแสดงให้เห็นแล้วว่า เมียนมาร์ไม่ใช่พื้นที่ปลอดภัยอีกแล้ว เพื่อนไร้พรมแดนสรุปสถานการณ์สำคัญทั้งสถานการณ์-การต่อสู้ …

Read more อัพเดทสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในเมียนมาร์ประจำเดือนกรกฎาคม 67

เต้-จักรพันธ์ ศรีวิชัย ผู้เคลื่อนไหวด้วยศาสตร์ภาพยนตร์ และ Performance Art เพื่อเรื่องเมืองและความเท่าเทียม

เต้-จักรพันธ์ ศรีวิชัย ผู้เคลื่อนไหวด้วยศาสตร์ภาพยนตร์ และ Performance Art เพื่อเรื่องเมืองและความเท่าเทียม

เต้-จักรพันธ์ ศรีวิชัย คือนักทำหนังอิสระ หนังส่วนมากวนเวียนกับภูติ ผี วิญญาณ ความเชื่อ และหนังเหล่านั้นทำงานในระดับที่เขาผลักดันตัวเองไปจนถึงเวทีเทศกาลหนังสั้นทั้งในเกาหลี และสวิสเซอร์แลนด์ จนใครหลายคนในวงการนี้เริ่มจับตามองเขาในฐานะคนทำหนังที่มีลีลาที่น่าตื่นตา …

Read more เต้-จักรพันธ์ ศรีวิชัย ผู้เคลื่อนไหวด้วยศาสตร์ภาพยนตร์ และ Performance Art เพื่อเรื่องเมืองและความเท่าเทียม

สิบปีกับเงินหมื่น

สิบปีกับเงินหมื่น

“เป็นยังไงมั่งแล้วหือ ไอ้หลานชาย ที่นั่นเป็นยังไง เอ็งจะกลับมาถึงเมื่อไหร่ รู้มั้ยวันก่อนน้าสาวกับน้าเขยของเอ็งนั่งรถหนีน้ำกลับมาหมดไปคนละห้าพัน แล้วยังโชคร้ายถูกจับส่งตัวไปที่ฝั่งพม่า ถูกหน่วยรักษาชายแดน (กองกำลังดีเคบีเอเดิม) เรียกคนละสองพันห้า เท่านั้้นยังไม่พอ …

Read more สิบปีกับเงินหมื่น