ปัญหาความมั่นคงไม่ใช่อยู่ที่ผู้ลี้ภัย
“ชาวบ้านเขาหนีมาอยู่ตามริมน้ำ หรือจะขอข้ามมาอาศัยในไร่ในนาเรา มันไม่ได้มีปัญหาอะไรนะ บ้านมันไม่ปลอดภัย คนก็ต้องหนี บางทีก็คนเห็น ๆ หน้ากันอยู่นี่แหละ เคยมารับจ้างทำงานแถวนี้อยู่แล้ว บางคนก็เป็นญาติพี่น้องกัน ไม่ใช่คนอื่นคนไกลอะไร”
ชาวบ้านจากชุมชนกะเหรี่ยงริมน้ำเมย อ.พบพระ จ.ตากหลายคนที่เราคุยด้วย ตอบตรงกันเมื่อได้รับคำถามว่า “รู้สึกอย่างไรกับการที่มีผู้ลี้ภัยเข้ามาอยู่ในฝั่งไทย” และ “มีปัญหาอะไรบ้าง”
เมื่อผู้ลี้ภัยทะยอยกันมาอยู่ริมน้ำเมยและขอข้ามมาในฝั่งไทย ชาวบ้านก็จะ “ช่วยกันเล็ก ๆ น้อย ๆ ตามที่เราช่วยได้” ซึ่งก็เป็นเพียงในระยะไม่กี่วันแรก เนื่องจากหลังจากนั้น ผู้ลี้ภัยก็มักได้รับการชักชวนให้ช่วยงานในไร่ในนาเพื่อแลกกับค่าแรงและข้าวสาร ชาวบ้านได้แรงงาน ผู้ลี้ภัยก็สามารถพึ่งพาตัวเองได้และไม่ต้องพึ่งพา
“คือเราจ้างงานกันแบบนี้อยู่แล้วนะ มีสู้รบหรือว่าไม่มี ทำเองไม่ไหวก็ต้องหาคนช่วย คนช่วยที่พูดภาษาเดียวกันเป็นพี่น้องกันก็ดีที่สุด” คนชายแดนข้ามแม่น้ำไปมาหาสู่กันเป็นปกติ คนฝั่งไทยไปทำไร่ฝั่งรัฐกะเหรี่ยงเมื่อที่ทำกินถูกจำกัดจนไม่เพียงพอ ผลผลิตสินค้าก็ผลัดกันซื้อผลัดกันขาย “เราอยู่กันมาอย่างนี้แต่ปู่ย่าตายาย เจ้าหน้าที่ที่เขาเข้าใจจะไม่มาเข้มงวดหรือยุ่งอะไรเลยเพราะเขาเคารพการจัดการดูแลของเรา แบบนี้ก็ไม่เป็นปัญหา”
…แล้วจะเป็นปัญหาเมื่อไร…
“ก็เวลาท่ีเจ้าหน้าที่ต้องเข้ามาเยอะ ๆ เข้ามาจัดการ ต้องมาปิดทางเข้าออกอะไรต่าง ๆ นั่นแหละ แต่เราไม่โทษเขานะ เพราะเขาได้รับคำสั่งมาอีกต่อหนึ่ง แต่อยากจะบอกว่า ถ้าคนไม่ได้มาแบบ..เยอะะะะ..หลายพันคนในครั้งเดียวอะไรแบบนั้น เราก็ดูแลกันได้”
อย่างไรก็ดี เมื่อถามว่าการข้ามแดนแบบนี้เป็นปัญหาความมั่นคงหรือไม่ คนตอบจะลังเลใจเพราะไม่ชัดกับคำว่า “ความมั่นคง” ซึ่งมีเป็นนามธรรมสูง
.. ความมั่นคง..ปลอดภัยของเรา ของประเทศน่ะ ? ..
“อ้อ… ความปลอดภัยนี่ ก็คือ เราอยากให้รัฐบาลสั่งให้มีการดูแลความปลอดภัยให้ชาวบ้าน ไปบอกไม่ให้ทหารพม่ายิงปืนใหญ่ทิ้งระเบิดที่ชายแดนนี่ ตรงชายแดนไม่ควรให้มีการโจมตี ให้เป็นที่ที่พี่น้องที่เขาเป็นชาวบ้านไม่มีอาวุธ ผู้หญิง เด็ก คนแก่ได้อยู่ปลอดภัย ถ้าเขาปลอดภัย เราก็ปลอดภัย”
คำตอบคนชายแดนมีความชัดเจน ผู้ลี้ภัยไม่ใช่ปัญหาความมั่นคง ทว่าภัยคุกคามความมั่นคงของชีวิตพวกเขาคือสิ่งอื่น ซึ่งเขาคิดว่ารัฐควรต้องเข้ามาจัดการ
6 กรกฎาคม 2565
ภาพประกอบ : ขอบคุณภาพจาก FB : Art-Atun Art-Atun