การกลับถิ่นฐานโดยสมัครใจ ?
ตลอดหลายวันที่ผ่านมา มีรายงานข่าวถึงผู้ลี้ภัยที่หนีการสู้รบในจังหวัดดูปลายา มายังอ.แม่สอด จ.ตาก ที่กลับถิ่นฐาน “ด้วยความสมัครใจ” เกือบทุกวัน แม้ว่าเสียงปืนใหญ่จะสนั่นหวั่นไหวจนคนแม่สอดยังต้องผวา และเครื่องบินรบยังทิ้งระเบิดหรือบินสำรวจอยู่ไม่หยุดหย่อน
วิดีโอสั้นของ Karen Peace Solidarity Network (KPSN) คือถ้อยคำของผู้คืนถิ่นฐานที่มีการรายงานว่า “กลับไปโดยสมัครใจ”
หญิงคนหนึ่งเล่าว่า เธอต้องหนีจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง ย้ายไปย้ายมาสามแห่ง จากโรงเรียน มาลงหลุมหลบภัย ข้ามมาอยู่ที่วัดในฝั่งไทย และบัดนี้เธอก็กำลังซ่อนตัวอยู่ใกล้ ๆ ที่ที่เธอจากมา เป็นที่ที่ใกล้จุดที่มีการสู้รบกันมาก
เสียงของชาวบ้านเล่าว่า “ฉันรู้สึกแย่มาก พวกเขา (เจ้าหน้าที่ไทย) เอาแต่ถามว่าอยากกลับบ้านหรือยัง เขาว่าเขาจะไปส่งเลยนะถ้าอยากกลับ ฉันรู้ว่าสถานการณ์มันยังไม่ปลอดภัย แต่ก็รู้สึกว่าเขาไม่ต้อนรับเรา ก็เลยตัดสินใจกลับไปฝั่งพม่า”
การผลักดันกลับผู้ลี้ภัยนั้น ไม่จำเป็นต้องใช้กำลังหรืออาวุธบังคับ เพราะเพียงทีท่าที่ไม่ต้องการตอนรับ หรือการเอ่ยปากว่า “กลับไปได้แล้ว” ดังที่เคยเกิดขึ้นกับผู้ลี้ภัยจากจังหวัดมื่อตรอที่หนีมาอยู่ริมขอบแม่น้ำสาละวิน อ.แม่สะเรียงและสบเมย ชาวบ้านก็รู้สึกได้ว่าตนจำต้องกลับ
เราทั้งหลายมองว่า นี่คือการกลับถิ่นฐานโดยสมัครใจหรือไม่
29 ธันวาคม 2564