รัฐไทยจะต้องทำมากกว่าการเปิดประตูมนุษยธรรม
การปฏิบัติการโจมตีทางอากาศอันโหดเหี้ยมของกองทัพพม่าในหลายพื้นที่ใน จ.ดูปลายา รัฐกะเหรี่ยง แถบตรงข้ามกับอ.แม่สอด จ.ตากเมื่อราว 4-5 ทุ่มคืนวาน (23 ธ.ค. 64) ตามต่อด้วยการระดมยิงปืนใหญ่เข้าหมู่บ้านต่าง ๆ ส่งผลให้ชาวบ้านมหาศาลต้องบ้านแตกสาแหรกขาด หลบหนีเอาชีวิตรอด และส่วนหนึ่งขอข้ามมาลี้ภัยในประเทศไทย เพิ่มขึ้นจากจำนวนเดิมที่มีอยู่แล้วในแม่สอดร่วมสี่พันคน
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากกองกำลัง KNU เรียกร้องให้เมืองใหม่เลเก้ก่อเป็นพื้นที่ปลอดการบิน และเป็นเหตุการณ์ใกล้เคียงกับการโจมตีทางอากาศที่เกิดขึ้นในเขตมื่อตรอ ตรงข้ามกับอ.สบเมยและแม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอนเมื่อเดือนมี.ค.-พ.ค. ที่ผ่านมา
ทั้งสองพื้นที่ล้วนติดเส้นพรมแดน จนมีกระสุนปืนใหญ่ตกในฝั่งไทย และอาจกล่าวได้ว่าเครื่องบินรบพม่าได้เข้าประชิดชายแดนไทยเป็นอย่างมาก กระทั่งมีรายงานจากชาวบ้านท้องถิ่นที่อ.สบเมยเมื่อต้นปีว่า เครื่องบินรบพม่าได้บินอยู่เหนือหัวตัวเองขณะหลบอยู่ในสวนข้างบ้าน
การโจมตีอันพุ่งเป้าหมายไปที่พลเรือนที่ดุปลายา เริ่มตั้งแต่วันที่ 14 ธ.ค. ที่มีการบุกเข้าลักพาตัวพลเรือนผู้เรียกร้องประชาธิปไตย รวมถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งเข้ามาหลบภัยในความคุ้มครองของ KNU ไปราว 20 คน ตามด้วยการตอบโต้ของทหาร KNU ต่อการรุกรานดังกล่าว และการระดมปืนใหญ่กว่าร้อยลูกของกองทัพพม่าเข้าสู่ 9 ชุมชน
การพุ่งเป้าหมายที่พลเรือนอย่างชัดเจน เสมือนจับประชาชนเป็นตัวประกันในการสงครามนี้ ส่งผลให้มีผู้คนพลัดถิ่นฐานโดยฉับพลันนับหมื่นคน
เพื่อนไร้พรมแดนขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทย ได้ร่วมมือกับภาคประชาสังคมท้องถิ่นและองค์กรมนุษยธรรมท่ีมีประสบการณ์ ให้ที่พักพิงและดูแลผู้ลี้ภัยใหม่โดยยึดหลักมนุษยธรรมและหลักสิทธิมนุษยชนต่อไป
เราขอให้ทางการไทยได้ช่วยอำนวยความสะดวกให้ภาคประชาสังคมท้องถิ่นได้ส่งมอบความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม ให้เข้าถึงประชาชนเพื่อนบ้านของเราซึ่งกำลังพลัดถิ่นฐานในรัฐกะเหรี่ยงได้โดยเร็วที่สุด
ที่สำคัญ รัฐบาลไทยไม่อาจปฏิเสธอีกต่อไปว่า การก่ออาชญากรรมต่อพลเรือนไร้อาวุธในประเทศพม่าที่ทวีคูณและแผ่ขยายทั่วประเทศตลอดมานับจากรัฐประหาร 1 ก.พ. 64 เป็นเพียงเรื่องความขัดแย้งในประเทศ
เมื่อการกระทำของกองทัพพม่าส่งผลกระทบโดยตรงต่อประเทศไทย ถึงเวลาแล้วที่ไทย รวมถึงกองทัพไทย จะต้องแสดงจุดยืนอันชัดเจน ว่าเราไม่เห็นด้วยต่อปฏิบัติการอันโหดเหี้ยมที่เกิดขึ้นต่อพลเรือนไร้อาวุธ และปฏิเสธการสนับสนุนทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อกองทัพพม่า
ไทยเป็นประเทศเพื่อนบ้านของประเทศพม่า ประชาชนพม่าทุกชาติพันธุ์ไม่เพียงจะเป็นเพื่อนบ้านของประชาชนไทย หากพลเรือนริมชายแดนทั้งสองฟากฝั่งแม่น้ำเมย-สาละวิน ล้วนเป็นเครือญาติ หรือกระทั่งครอบครัวเดียวกัน
การสนับสนุนใด ๆ ต่อกองทัพพม่าก็คือการสนับสนุนการก่ออาชญากรรมต่อเพื่อนบ้าน ญาติพี่น้อง และครอบครัวของเรา
24 ธันวาคม 2564
ภาพจาก Karen National Media และเพจ Sunrise Garment แม่สอด