จากรายงานของคุณวาสนา นาน่วม ที่ว่า พลโท อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาค 3 ชี้แจงว่าการขนส่งข้าวสาร 700 กระสอบที่ชายแดนต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอนนั้น ไม่ใช่การส่งเสบียงสนับสนุน หากเป็นการฝากซื้อของผ่านคณะกรรมการ TBC Township Border Committee ที่มีมายาวนาน เพื่อสานสัมพันธ์ช่วยเหลือกัน อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้คนค้าขายฝั่งไทยทำธุรกิจได้ อีกทั้งยังประหลาดใจที่ถูกโจมตีนั้น
เพื่อนไร้พรมแดนมีความเห็นว่า การสร้างสัมพันธ์ทางทหารระหว่างประเทศที่มีชายแดนติดกันนั้นเป็นเรื่องปกติ ในสถานการณ์ปกติ หาก ณ ปัจจุบันที่ทั้งประชาชนไทย ประชาชนพม่า และสังคมโลกกำลังจับตามองการที่กองทัพพม่ากำลังก่ออาชญากรรมเข่นฆ่าประชาชนของตน ทั้งในเขตเมือง และเขตชายแดนในรัฐของกลุ่มชาติพันธุ์ การประสานสัมพันธ์อันไปสนับสนุนกำลังพลพม่าที่ปฏิบัติการโจมตีชุมชนชาติพันธุ์จนต้องหลบซ่อนตัวในป่า หรือขอข้ามมาลี้ภัยในประเทศไทยและถูกปฏิเสธ ไม่ใช่เรื่องปกติ และต้องยุติ
นอกจากนี้ เราขอเรียกร้องให้สื่อมวลชนและประชาชนท้องถิ่นได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า การรายงานข่าวเดียวกันว่า ผู้ที่ข้ามแดนมามีแต่คนที่ตั้งใจลักลอบมาทำงานหรือหนีโควิดมาเท่านั้นจริงหรือไม่ เนื่องจากผู้ที่ข้ามแดนมา และได้รับการเจรจาให้กลับหรือผลักดันกลับทั้งหลายนั้น ยังไม่เคยมีโอกาสได้ผ่านกระบวนการคัดกรองสถานะการลี้ภัย โดยมีแต่เพียงการคัดกรองโควิด 19 เท่านั้น
ล่าสุด เรายินดีที่ได้รับทราบว่า รัฐไทยได้เปิดรับผู้มีตำแหน่งทางการเมืองในรัฐกะเรนนีและครอบครัวให้เข้ามาหลบภัยในประเทศได้ การเปิดรับผู้ลี้ภัยความตายให้พักพิงเพื่อความปลอดภัยนี้ถือเป็นหน้าที่ตามจารีตระหว่างประเทศและมโนธรรมสำนึก ในขณะที่การปฏิเสธหรือถอยห่างจากการสนับสนุนการใช้กำลังปราบปรามเข่นฆ่าประชาชน ก็คือมโนธรรมสำนึกและจารีตที่พึงปฏิบัติเช่นกัน
หมายเหตุ
กรุณาแสดงความคิดเห็นบนพื้นฐานการเคารพในเสรีภาพ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และระมัดระวัง “ความผิดฐานหมิ่นประมาท” ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ประมวลกฎหมายอาญา ฯลฯ