เหตุผลที่ “เขา” ไม่ต้องการให้ภาคประชาสังคมไทย-สื่อมวลชน
เข้าถึงและนำความช่วยเหลือไปให้ผู้ลี้ภัยตามแนวชายแดน
ก. เกรงว่าสื่อ-คนไปช่วยจะนำเชื้อโควิด 19 ไปให้ผู้ลี้ภัย
ข. เกรงว่าจะผู้ลี้ภัยมีเชื้อโควิด 19 แล้วนำมาติดสื่อ-คนที่ไปช่วย
ค. เกรงว่าสื่อ-คนไปช่วยจะก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้ลี้ภัย
ง. เกรงว่าผู้ลี้ภัยจะก่อให้เกิดอันตรายแก่สื่อ-คนที่ไปช่วย
จ. เกรงว่าคนไทยจะไม่พอใจเพราะไปช่วยผู้ลี้ภัยมากไป
ฉ. เกรงว่าจะทำให้ผู้ลี้ภัยไม่ปลอดภัยเพราะทหารพม่ารู้ว่าอยู่ไหน
ช. เกรงว่าจะเกิดการทำให้เป็นข่าว แล้วกองทัพพม่าจะไม่พอใจ
ซ. เกรงว่าการช่วยเหลือผู้ลี้ภัยจะทำให้กองทัพพม่าไม่พอใจ
ฌ. เกรงว่าความช่วยเหลือจะทำให้ผู้ลี้ภัยสบายจนไม่ยอมกลับ
ญ. เกรงว่าความช่วยเหลือจะทำให้คนอยากมาเพิ่ม
ฎ.เกรงว่าสื่อ-คนไปช่วยจะได้รู้เห็นสิ่งที่รัฐไม่อยากให้รู้เห็น
ฏ. เกรงว่าสื่อ-คนไปช่วยจะนำเรื่องที่รัฐไม่อยากให้รู้เห็นไปบอกชาวโลก
ฐ.เกรงว่าสื่อ-คนไปช่วยจะวิพากษ์วิจารณ์ เดี๋ยวต้องทำสิ่งที่ไม่อยากทำ
ฑ.เกรงว่าสื่อ-คนไปช่วยจะทำให้จนท.ปฏิบัติตามนโยบายได้ลำบาก
ฒ. ไม่รู้แหละ แค่ปฏิบัติตามคำสั่งและ/นโยบาย
คำตอบอาจเป็นข้อหนึ่งข้อใด หลายข้อ ถูกทุกข้อ หรือไม่ใช่เลยแม้แต่ข้อเดียวก็เป็นได้ หากเราเข้าใจว่า คำตอบนี้จะเป็นคำตอบเดียว ๆ กันกับเหตุผลที่ค่ายผู้ลี้ภัยทั้งเก้าแห่งเป็นดินแดนพิเศษ บุคคลภายนอกที่ต้องการเข้าเยี่ยมเยือนจะไม่ต้องขออนุญาตผู้อยู่อาศัย แต่ต้องขออนุญาตรัฐซึ่งอาจไม่ได้รับอนุญาต ดังเช่นที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้รับการปฏิเสธไม่ให้เข้าพื้นที่พักพิงแม่หละ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก นั้น
2 เมษายน 2565
ภาพประกอบ ชาวบ้านริมเมย