ระดมความช่วยเหลือผู้พลัดถิ่นในรัฐกะเรนนี ขณะที่ค่ายในสอยล็อคดาวน์ 

ระดมความช่วยเหลือผู้พลัดถิ่นในรัฐกะเรนนี ขณะที่ค่ายในสอยล็อคดาวน์ 

| | Share

ระดมความช่วยเหลือผู้พลัดถิ่นในรัฐกะเรนนี ขณะที่ค่ายในสอยล็อคดาวน์ 

ค่ายผู้ลี้ภัยในสอย อ.เมือง แม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นที่พักพิงของผู้ลี้ภัยกะเรนนีราว 8,000 คน เผชิญกับคำสั่งล็อคดาวน์มากว่าสองสัปดาห์แล้ว ขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด 19 สูงขึ้นเรื่อย ๆ 

“ตอนแรกผมได้ข่าวว่ามีราวร้อยคน แต่ตอนนี้สามร้อยได้ละ” เสียงเล่าของชายหนุ่มกะเรนนีที่ถูกกักตัวอยู่ในค่าย “พวกเราได้แต่อยู่ในนี้เฉย ๆ ไม่รู้จะทำอะไร ทุกอย่างปิด โรงเรียนปิด เอ็นจีโอหรือองค์ชุมชน (CBO)เข้าออกไม่ได้ คนที่ติดเชื้อก็ให้ไปรวมกันอยู่ในศูนย์กักตัว”

การล็อคดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดโรค ส่งผลกับค่ายผู้ลี้ภัยเช่นเดียวกับชุมชนอื่น ๆในประเทศไทย นั่นคือ คนที่ถูกล็อคไว้ข้างในจะขาดแคลนรายได้ และการซื้อหาอาหารกับของใช้จำเป็นจะเป็นไปอย่างยากลำบากเมื่อไม่มีสินค้าไหลเวียนเข้าออก  สำหรับผู้ลี้ภัยนั้น ความช่วยเหลือในค่ายไม่เคยเต็ม 100% อีกทั้งยังมีแต่จะลดลงเรื่อย ๆ ในปัจจุบัน ขณะที่ผู้ลี้ภัยมีค่าใช้จ่ายทั้งด้านอาหาร เครื่องใช้ส่วนตัว การศึกษาของเด็ก และอื่น ๆ การทำงานหาเลี้ยงชีพจึงเป็นเรื่องจำเป็น และเป็นปกติธรรมดาของทุกครอบครัว

ขณะเดียวกัน ผู้พลัดถิ่นจากพื้นที่ดอโน่กู่ที่เคยหลบหนีการโจมตีทางอากาศของกองทัพพม่าเข้าสู่ฝั่งไทยส่วนหนึ่ง ก่อนจะถูกกดดันให้กลับไปรวมกับกลุ่มที่หลบอยู่ในป่าดังเดิม ก็กำลังประสบปัญหาอย่างหนัก  ถึงวันนี้ ชาวบ้านยังไม่สามารถกลับไปใช้ชีวิตในค่ายคนพลัดถิ่นฝั่งรัฐกะเรนนีเหมือนเดิมได้ โรงเรียนยังไม่สามารถเปิดสอน คนจำนวนมากใช้ชีวิตใต้ร่มไม้ และเริ่มมีการพบเจอผู้ติดเชื้อโควิดด้วยเช่นกัน

“พวกเขากำลังเริ่มขาดแคลนอาหาร อาหารส่งออกจากทางค่ายผู้ลี้ภัยไม่ได้เพราะเราล็อคดาวน์ ผมได้ข่าวว่าชาวบ้านในสอยตั้งเต็นท์รับบริจาคที่วัดเพื่อส่งอาหารไปให้พวกเขา” 

“สงคราม อพยพ โควิด เราเจอมันพร้อม ๆ กัน” หญิงสาวชาวกะเรนนีเคยกลว่าไว้ “แล้วเราก็จำเป็นต้องอยู่กับมันให้ได้”

3 กุมภาพันธ์ 2565

ภาพประกอบ

1. นักเรียนผู้ลี้ภัยกะเรนนี ค่ายผู้ลี้ภัยในสอย โดย Oo Reh (ภาพถ่ายส่งประกวด)

2-3. ผู้พลัดถิ่นในรัฐกะเรนนี ถ่ายโดย ชาวบ้านกะเรนนี

4. ชาวบ้านในสอยตั้งเต็นท์รับบริจาคในวัด ถ่ายโดย ชาวบ้านกะเรนนี

Related