ผู้พลัดถิ่นประสบภัยธรรมชาติต่อเนื่อง

ผู้พลัดถิ่นประสบภัยธรรมชาติต่อเนื่อง

| | Share

ผู้พลัดถิ่นประสบภัยธรรมชาติต่อเนื่อง

หลังจากที่ไม่มีการโจมตีทางอากาศในแถบใกล้เคียงได้ 5 วัน ผู้ลี้ภัยส่วนหนึ่งก็เดินทางกลับไปที่ชุมชนโค่เก้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องมีการกดดันหรือผลักดันกลับ  

“ฉันบอกแล้วว่า ถ้ากลับได้เมื่อไร เราจะกลับไปก่อนที่คุณจะรู้ตัวเสียอีก” หญิงนางหนึ่งเคยกล่าวไว้  

พวกเธอขออนุญาตทิ้งหม้อ จาน ผ้าพลาสติก และเครื่องใช้บางอย่างไว้ที่ฝั่งไทย ด้วยรู้ว่าอาจมีความจำเป็นต้องหนีข้ามไปหลบภัยอีก และการหนีภัยโดยไม่ต้องแบกข้าวของไปด้วยจะทำได้เร็วกว่ามาก 

ชุมชนโค่เก้ อาจยังเสี่ยงภัยและอัตคัดขาดแคลน ไม่มีพื้นที่เพาะปลูกเลี้ยงชีพได้อย่างพอเพียง แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ยังมีหลังคาบ้านกันฝน และใช้ชีวิตได้อย่างเป็นอิสระ ไม่ถูกควบคุมโดยเจ้าหน้าที่ที่คอยห้ามไม่ให้ถ่ายภาพหรือสื่อสารออกไป 

แต่พายุฝนที่ถล่มมาอย่างหนักหน่วงในวันที่ 5 และ 6 พ.ค. ได้ทำลายบ้านเรือนและโรงเรียนในโค่เก้  เท่านั้นยังไม่พอ น้ำป่าในฝั่งไทยยังได้พัดพาเอาข้าวของที่พวกเขาฝากไว้ไปด้วยทั้งหมด 

จากการเป็นผู้ลี้ภัย ซึ่งหมายถึงบุคคลที่หนีการประหัตประหารจากประเทศตนไปอีกประเทศหนึ่ง และจำเป็นต้องได้รับความคุ้มครองจากนานาชาติ ชาวบ้านเหล่านี้ได้กลับไปเป็น “ผู้พลัดถิ่นในประเทศ” หรือ Internally displaced persons (IDPs) ซึ่งการส่งความช่วยเหลือข้ามพรมแดนยังมีข้อจำกัดมากมาย  เท่านั้นยังไม่พอ ขณะนี้พวกเขายังเป็นผู้ประสบภัยธรรมชาติเพิ่มด้วยอีกประการหนึ่ง เช่นผู้ลี้ภัยในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสาละวินที่ยังคงเหลืออยู่ราวสองพันคน 

ในขณะที่เส้นทางความช่วยเหลือจากภายนอกไม่ว่าจะไปยังผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่นในรัฐกะเหรี่ยง ก็ยังถูกปิดกั้นโดยหน่วยงานความมั่นคงของไทย และพม่า

7 พฤษภาคม 2564

Related