ความน่าสยดสยองยังคงดำเนินอยู่ข้างบ้านเรา
เรื่องราวใกล้บ้านมักมีโอกาสครองพื้นที่สื่อได้ไม่มากนัก เสียงปืนที่ครึกโครมอยู่ริมขอบแดนดังไม่ไกลถึงเมือง นี่คือสรุปปฏิบัติการโจมตีประชาชนครั้งใหญ่ ๆ ของกองทัพพม่าที่ดำเนินมานับจากรัฐประหาร ก.พ. 2564 จนถึงต้นเดือนม.ค. 2565 ไว้ รวบรวมโดยองค์กร Progressive Voice ไว้ดังนี้
14 มี.ค. 64
การสังหารหมู่ผู้ต่อต้านรัฐประหารอย่างน้อย 65 คนที่ย่างกุ้ง
27 มี.ค.64
การสังหารผู้ต่อต้านรัฐประหารทั่วประเทศเป็นจำนวนอย่างน้อย 163 คนในวันเดียว ซึ่งเป็นวันกองทัพพม่า ในจำนวนนี้ มีเด็กวัย 9-17 ปีอยู่ด้วย 16 คน
27 มี.ค.- 1 เม.ย. 64
การโจมตีทางอากาศที่จังหวัดมื่อตรอและเคล่อลุยทู รัฐกะเหรี่ยง สังหารชาวบ้านรวมทั้งเด็กอย่างน้อย 16 คน มีผู้บาดเจ็บ 25 คนบาดเจ็บ และพลัดถิ่นฐานจากเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างน้อย 15,000 คน
9 เม.ย.64
การสังหารหมู่ผู้ต่อต้านรัฐประหารอย่างน้อย 82 คนในสี่พื้นที่ มณฑลพะโค
ก.ค.64
การสังหารหมู่ชาวบ้านรวมอย่างน้อย 43 คนจาก 4 หมู่บ้านในมณฑลสะกาย ในจำนวนนี้มีเด็กและผู้พิการรวมอยู่ด้วย บางศพพบในสภาพถูกเผา ชาวบ้านกว่าหมื่นพลัดถิ่นฐาน
ก.ย. – ธ.ค. 2564 ตั้นลาง รัฐฉิ่น
การโจมตีทางอากาศและภาคพื้นดินที่เมืองตั้นลาง รวมถึงการเผาบ้านเรือนที่อยู่อาศัย 586 หลัง ส่งผลให้มีผู้พลัดถิ่นกว่า 10,000 คน และมีรายงานการสังหารศาสนาจารย์คริสเตียน พร้อมตัดนิ้วมือที่ใส่แหวนแต่งงานออกไป
8 ธ.ค. 64
การสังหารหมู่และเผาร่างชาวบ้าน 11 ควรรวมเด็กจำนวน 5 คน ในระหว่างการบุกเข้าโจมตีหมู่บ้านในมณฑลสะกาย
15 ธ.ค.-ม.ค. 2564
การระดมยิงปืนใหญ่กว่า 100 นัดตาม ด้วยการโจมตีทางอากาศที่ตัวเมืองเลเก้ก่อ รัฐกะเหรี่ยง ทำให้มีผู้พลัดถิ่นฐานราวสองหมื่นคน *มีรายงานหญิงผู้เสียชีวิตจากสะเก็ดกระสุนปืนใหญ่ (*ข้อมูลจากเพจเพื่อนไร้พรมแดน)
23 ธ.ค. 64
การโจมตีทางอากาศที่เมืองกาเล มณฑลสะกาย สังหารพลเรือนจำนวน 20 คน และมีผู้พลัดถิ่นฐานจากเหตุการณ์ดังกล่าวหลายพันคน
24 ธ.ค.64
การสังหารหมู่ชาวบ้านอย่างน้อย 42 คน ซึ่งรวมเด็กจำนวน 4 คนและเจ้าหน้าที่ Save the Children 2 คนที่รัฐกะเรนนี คนทั้งหมดถูกจับมัด ทรมาน และเผา
4 ม.ค. 2565
การโจมตีทางอากาศที่มณฑลสะกาย สังหารชาวบ้าน 5 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 3 คน มีผู้พลัดถิ่นฐานราว 800 คน
6 ม.ค. 2565
การโจมตีทางอากาศและภาคพื้นดิน ทำให้ชาวบ้านกว่า 60,000 คนจากเมืองลอยก่อ รัฐกะเรนนีต้องพลัดถิ่นฐาน มีการโจมตีค่ายพักผู้พลัดถิ่นใน อำเภอพรูโซ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน เป็นเด็กหญิง 2 คน
6-7 ม.ค. 65
พลเรือนจำนวน 10 คนในรัฐฉิ่น รวมเด็กวัย 13 ปี และหัวหน้าบรรณาธิการ Khonumthung Media ถูกจับกุม ซ้อมทรมานและเชือดสังหารอย่างเหี้ยมโหด มีผู้พลัดถิ่นอย่างต่ำ 4500 คน
ข้อมูลทั้งหมดไม่ได้นับรวมเหตุการณ์ย่อย ๆ ที่เกิดขึ้นเกือบทุกวัน และไม่นับรวมการสูญเสียที่เป็นผลพวงจากสงคราม เช่น ความป่วยไข้ในระหว่างการพลัดถิ่นฐาน สภาพจิตใจที่ย่ำแย่ การขาดโอกาสทางการศึกษา ฯลฯ ซึ่งสถานการณ์ดังที่ได้ไล่เรียงมา ยังคงดำเนินอยู่จนถึง ณ บัดนี้
ล่าสุด มีข้อความจากหญิงสาวคนหนึ่งที่ชายแดนส่งมาถึงเพื่อนไร้พรมแดน
“ฉันติดตามข่าวและรู้สึกห่วงใยชาวยูเครนเป็นอย่างมาก พวกเขาไม่ควรจะต้องมาพบเจออะไรแบบนี้ มนุษย์เราไม่ควรจะต้องมาพบเจออะไรแบบนี้ แต่ฉันก็รู้สึกเสียใจ ที่ตอนนี้ดูเหมือนหลายแหล่งหันเหความช่วยเหลือทั้งหมดที่มีไปที่ยูเครน ขณะที่ประชาชนของเรายังคงทุกข์ทรมานอยู่เช่นเดิม ไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่ดีขึ้นแต่อย่างใดเลย”
11 มีนาคม 2565