ครอบครัวคนย้ายถิ่น
ความเปราะบางท่ามกลางมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด
ผมมักจะคิดถึงครอบครัวที่ถูกแยกเพราะเขตแดนและสัญชาติ พวกเขาทำได้แค่อยู่อย่างเงียบ ๆ และรอคอยพ่อ แม่ พี่ น้อง ที่จะกลับมาเจอกันอีกครั้ง
.
1 ปีแล้วที่ผมได้เจอพวกเขา
มากกว่า 2 ปีแล้วที่ครอบครัวพวกเขาถูกแยก
.
ตุลา เป็นเด็กชายชาวกะเหรี่ยง สัญชาติพม่า ที่เพิ่งคลอดเมื่อเดือนกันยายน แม่บอกว่า “ถ้าตั้งชื่อกันยา ก็จะดูเป็นผู้หญิง เลยเลือกตั้งชื่อตุลาแทน แม้ว่าจะไม่ได้เกิดในเดือนตุลาคมก็ตาม ส่วนพ่อเขาก็ยังไม่ได้เห็นหน้าลูกเลย เพราะเพิ่งกลับไปทำเอกสารใบอนุญาตเข้ามาทำงานในประเทศ (MOU) แล้วก็ติดอยู่ที่ฝั่งนู่นเพราะไทยปิดชายแดนก่อนกำหนดเดินทางไม่กี่วัน”
.
ครอบครัวของตุลา อยู่ในห้องพักเล็กๆ กัน 5 คน เป็นเด็กๆ ที่นอกจากตุลาแล้วยังมีพี่ชายอีก 2 คน อายุ 2 และ 3 ขวบ กับเพื่อนของแม่อีกคนที่สามีของเขายังถูกกักอยู่ในพื้นที่มหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร ส่วนพ่อของตุลานั้นยังอยู่ในฝั่งประเทศพม่านับตั้แต่การปิดชายแดนเมื่อกลางปี 2563 แม้ว่าแม่ของตุลาจะยังคงมีวีซ่าและใบอนุญาตทำงานในประเทศไทย แต่การที่ต้องเลี้ยงลูกชายทั้งสามคนทำให้ไม่สามารถออกไปทำงานได้
.
เพื่อน ๆ แรงงานทั้งกะเหรี่ยง ปะโอ และพม่าที่อยู่ใกล้กันพยายามช่วยเหลือให้ครอบครัวของตุลาอยู่ได้ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก หลายคนได้ช่วยกันขอร้องให้เจ้าของที่พักผ่อนผันค่าเช่าไปก่อน พวกเขาแบ่งปันอาหารที่ทำกินร่วมกัน “กับข้าวไม่ต้องเยอะ แต่ขอข้าวให้พออิ่มก็พอทำให้พวกเราอยู่ได้” เพื่อนของแม่ตุลาบอกเล่าสภาพความเป็นอยู่
.
ขณะที่พ่อของตุลา นอกเหนือจากการติดค้างอยู่ในชายแดนฝั่งตรงข้ามของประเทศไทย อนาคตที่ไม่แน่นอนก็ทำให้หนี้สินพวกเขาเพิ่มขึ้น จากการหยิบยืมมาจ่ายเป็นค่าดำเนินการตาม MOU ประมาณ 20,000 บาท ก็เพิ่มมากขึ้นต่อเนื่องทั้งจากดอกเบี้ย จากค่าใช้รายวันของทั้งตัวเองและของครอบครัวที่อยู่ในประเทศไทย
.
จากรายงานประจำปีสถานการณ์แรงงานข้ามชาติปี 2563 ของ Migrant Working Group ประมาณว่ามีแรงงานจากประเทศพม่าที่ได้ดำเนินการขอเข้ามาทำงานในประเทศไทยตามข้อตกลงระหว่างประเทศ หรือ MOU แต่ติดค้างไม่สามารถเดินทางเข้ามาได้จากมาตรการปิดชายแดนของประเทศไทยประมาณ 100,000 คน ซึ่งยังคงมีอีกหลายครอบครัวตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ได้ต่างกันกับครอบครัวของตุลา
.
พวกเขาทั้งหมดเป็นคนที่พยายามจะเข้ามาทำงานถูกต้องตามกฏหมาย พวกเขามีหนี้สินจากการหยิบยืมเพื่อมาเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ และหวังว่าเมื่อเข้ามาทำงานในประเทศไทย ใช้หนี้สินหมดก็จะพอมีเงินเหลือเก็บไว้ให้ครอบครัว แต่กระนั้นภายใต้นโยบายของรัฐบาลที่เน้นการป้องกันการระบาดของโควิด พวกเขากลับต้องตกเป็นคนที่รับผลกระทบโดยตรง ขณะที่ขบวนการนำพาคนเข้าเมืองผิดกฏหมายกลับเติบโตภายใต้การอุปถัมป์ของหน่วยงานความมั่นคงที่ทุจริต
.
แม่ของตุลา หวังว่าพ่อของตุลาจะสามารถเดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้ทันเห็นก้าวแรกของตุลา ลูกชายที่เขายังไม่เคยเห็นหน้า
เรื่องและภาพโดย ศิววงศ์ สุขทวี