การขอบคุณไม่สามารถกระทำได้ด้วยการจำยอมต่อความไม่เป็นธรรม

การขอบคุณไม่สามารถกระทำได้ด้วยการจำยอมต่อความไม่เป็นธรรม

| | Share

การขอบคุณไม่สามารถกระทำได้ด้วยการจำยอมต่อความไม่เป็นธรรม

เป็นเรื่องปกติที่ข่าวคราวการประท้วงและความคิดเห็นจากแอคเคาท์โซเชียลมีเดียที่ปราศจากตัวตนอันปรากฏในสื่อออนไลน์กระแสหลักหลายราย จะหันเหไปในทิศทางที่ว่า การชุมนุมของผู้ลี้ภัยในค่ายแม่หละ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก คือการก่อรุนแรงโดยไม่ “สำนึกบุญคุณ” และไม่ควรที่ประเทศไทยจะให้ที่พักพิงแก่คนเหล่านี้ต่อไป 

ทั้งนี้ เนื่องจากผู้ลี้ภัยในรั้วลวดหนามไม่เคยมีโอกาสได้พบกับสื่อมวลชน ไม่มีผู้ใดกล้าให้สัมภาษณ์ได้อย่างเปิดเผยและเป็นอิสระ อีกทั้งสังคมไทยส่วนใหญ่ยังขาดข้อมูลข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผู้คนที่ใช้ชีวิตอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยทั้ง 9 แห่งริมชายแดนไทย-พม่าอยู่มาก

ในความเป็นจริงแล้ว ผู้ลี้ภัยถูกกักเก็บไว้ในค่ายอันมีรั้วลวดหนามมา 20-30 ปี โดยที่รัฐไม่มีนโยบายจะอนุญาตให้ออกมาทำงานได้อย่างถูกกฎหมายเหมือนแรงงานข้ามชาติ

แต่ที่ผ่านมา การที่ผู้ลี้ภัยจะได้ออกมารับจ้างตามฤดูกาล หรือบางรายก็เข้าเมืองไปไกลนั้น ล้วนเป็นการอลุ้มอล่วยกันในพื้นที่หรือการแอบออกไปทั้งสิ้น  ผู้มีอำนาจหน้าที่ระดับท้องถิ่นหลายแห่งก็มีความเข้าใจอยู่ว่า การที่จะขังไม่ให้คนออกมาทำงานหรือไปไหนต่อไหนไม่ได้เลยตลอดเป็นปี ๆ นั้น เป็นกฎที่ไม่สามารถปฏิบัติได้ในความเป็นจริง 

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลักการว่าผู้ลี้ภัยไม่มีสิทธิออกมาทำงานอย่างถูกกฎหมายเลยนั้นเป็นไปไม่ได้กับชีวิตในค่ายผู้ลี้ภัยที่มีค่าใช้จ่าย ทุกแห่งก็มีตลาดให้ต้องจับจ่ายใช้สอย ยิ่งในระยะหลายปีหลัง ๆ นี้ ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมทั้งในด้านอาหารและการศึกษานั้นลดลงมาก ผู้ลี้ภัยก็เหมือนชาวบ้านทั่วไปที่ต้องการซื้อเนื้อสัตว์ ซื้อด้ายเย็บผ้า ซื้อขนมถุงละ 5 บาทให้ลูก อีกทั้งยังต้องจ่ายค่าเทอม และซื้อชุดนักเรียนด้วย

ตั้งแต่โควิด 19 เริ่มแพร่ระบาด ตามมาด้วยคำสั่งให้ล็อคดาวน์ค่ายผู้ลี้ภัยแต่ละแห่ง ความตึงเครียดจึงบังเกิด (แน่นอนที่ว่าผู้ลี้ภัยย่อมไม่ได้รับเงินชดเชย เพราะถือว่าเป็นชีวิตที่ต้องไร้ค่าใช้จ่าย) สาส์นวันผู้ลี้ภัยโลกเมื่อมิถุนายน 2564 ของผู้ลี้ภัยจากค่าย 5 แห่งที่ส่งมาถึงเราล้วนกล่าวตรงกันว่า ปัญหาเฉพาะหน้าที่เผชิญคือการที่ไม่สามารถออกไปไหนได้ และการที่สินค้าจากภายนอกรวมถึงจากชาวบ้านท้องถิ่นใกล้เคียงค่าย ก็ไม่สามารถเดินทางเข้าไปได้โดยง่าย

ที่สำคัญ แม้จะมีการประกาศล็อคดาวน์ซึ่งผู้ได้รับผลกระทบคือผู้ลี้ภัยธรรมดาสามัญทั่วไปแล้ว ก็ยังมีปรากฏการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ในเกือบทุกค่ายผู้ลี้ภัยอยู่นั่นเอง เนื่องจากในแต่ละแห่ง มักมีผู้ที่แตกต่างจากผู้อื่น คือ ยังสามารถเดินทางเข้าออกได้เป็นปกติโดยไม่กักตัว  แม้ว่าจะมีกรณีที่เป็นลูกหลานผู้ลี้ภัยกลับจากการทำงานในเขตเมืองและติดเชื้อกลับมาอยู่บ้าง 

สำหรับแม่หละ เสียงร่ำร้องของพวกเขา พอจะสรุปได้ว่า ประเด็นแรกก็คือการที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติเกินกว่าเหตุในการควบคุมตามมาตรการป้องกันโควิด 19 คือ ใช้กำลังกับผู้ที่ไม่ใส่หน้ากากอนามัย และยึดรถมอเตอร์ไซค์ผู้ที่มีความจำเป็นต้องซ้อนกันไปสองคนเพื่อขนตู้เย็น

ประเด็นแรกที่ทำให้คนรวมตัวกัน จึงนำไปสู่การระบายความคับข้องใจในประเด็นที่สองว่า  มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด ได้ก่อให้เกิดการหาประโยชน์ โดยมีการเรียกร้องให้จ่ายค่าใบอนุญาตออกนอกค่ายในราคาครั้งละ 1,000 บาท ในขณะที่ผู้นำและผู้ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจใหญ่ในค่ายสามารถเดินทางได้อย่างอิสระไม่ต้องกักตัว

จากนั้น เสียงร่ำร้องในคลิปจึงนำไปสู่ประเด็นสำคัญที่มีการปล่อยให้ธุรกิจหนึ่งผูกขาดในการนำสินค้าเข้าออก สามารถขึ้นราคาสินค้าได้ตามใจชอบ และผู้อื่นใดที่ต้องการนำสินค้าอาหารเข้าออกก็ต้องจ่ายเงินพิเศษ  ซึ่งในประเด็นหลังนี้ อาจมีความไม่พอใจสะสมมานานพอควรระหว่างผู้ลี้ภัยที่หนีภัยมาจริง ๆ และไม่มีทรัพย์สินมากมาย กับเจ้าของธุรกิจที่มาอาศัยอยู่เพื่อทำธุรกิจ

สุดท้าย เสียงของวัยรุ่นคนหนึ่งที่ปรากฏในไลฟ์วันเกิดเหตุ ด้วยความชุลมุนวุ่นวาย คนจำนวนหนึ่งจึงสามารถออกจากรั้วลวดหนามไปอยู่บนถนนหน้าค่ายผู้ลี้ภัยได้  เด็กหนุ่มตะโกนกล่าวว่า “เราได้ออกมาข้างนอกแล้ว เรามีเสรีภาพแล้ว เราทำครั้งนี้ยอมแลกกับชีวิต เพียงขอให้คนข้างในได้รับความเป็นธรรมและมีเสรีภาพ ต่อให้เราถูกยิงตายก็ถือว่าเราตายคนเดียว เรายอม” 

เหตุการณ์ต่อเนื่องด้วยการประกาศเคอร์ฟิวห้ามออกนอกบ้านหลังหกโมงเย็นในค่ายแม่หละ ซึ่งเป็นการระงับเหตุเพียงชั่วคราว แต่ไม่ใช่การแก้ปัญหา

เพื่อนไร้พรมแดนไม่เคยยืนยันว่าผู้ลี้ภัยกระทำถูกต้องเสมอและตลอดเวลา อีกทั้งไม่สามารถยืนยันได้ด้วยว่า เสียงรำ่ร้องและข้อมูลที่ผู้ลี้ภัยหลายรายกล่าวตรงกันนั้นเป็นข้อเท็จจริงทั้งหมดหรือไม่  หากเรายืนยันว่า ความรู้สึกคับแค้นว่ามีการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมนั้นมีอยู่จริง ความรู้สึกอัดอั้นกับชีวิตในรั้วนั้นมีอยู่จริง และทั้งหมดนี้ ควรได้รับการสอบสวนจากหน่วยงานที่เป็นกลาง เท่า ๆ กับที่จะมีการสอบสวนว่าใครทำลายทรัพย์สินราชการไปเมื่อวันวาน

มิถุนายน 2564 สาส์นจากผู้ลี้ภัย 5 ค่ายส่งมาตรงกัน พวกเขากล่าวขอบคุณคนไทยและรัฐบาลไทยที่ได้ให้พื้นที่พักพิงและอำนวยการให้องค์กรมนุษยธรรมนานาชาติเข้าช่วยเหลือ  ทว่า ในคำขอบคุณ พวกเขาก็ปรารถนาที่จะกล่าวถึงปัญหาที่ตนเองเผชิญได้อย่างอิสระ และการปฏิบัติด้วยความรู้สึกขอบคุณก็ย่อมไม่ได้หมายความถึงการจำยอมต่อสิ่งที่ตนรู้สึกว่าไม่เป็นธรรม

เพราะเขาก็คือคน

16 ธันวาคม 2564

ภาพประกอบ : ชีวิตผู้ลี้ภัยในค่ายผู้ลี้ภัยแม่หละ โดย Saw Mort จากนิทรรศการ World Refugee Day 2019

Related