ทำลายสะพานทำไม
แม่น้ำเมยอันถูกกำหนดให้เป็นเส้นพรมแดนไทย-พม่านั้น ยามแล้งน้ำก็ลดจนเดินข้ามกันได้พอเปียกเสมอ
เมยทางต้นน้ำแถบอำเภอพบพระนั้นแคบเล็กนิดเดียว ในยามไร้เสียงปืน ชาวบ้านก็เดินข้ามไปมาหาสู่กันเป็นปกติ คนสองฟากเป็นญาติพี่น้อง ชาวบ้านฝั่งไทยไปทำไร่ข้าวโพดในรัฐกะเหรี่ยง ชาวบ้านฝั่งรัฐกะเหรี่ยงมาซื้อข้าวของจำเป็นจากฝั่งไทย คนสัญชาติไทยไปมีครอบครัวทำมาหากินในรัฐกะเหรี่ยงก็มี คนรัฐกะเหรี่ยงมาพบรักแต่งงานมีครอบครัวอยู่ฝั่งไทยก็มาก
สะพานข้ามลำน้ำเมย มีอยู่ตามปกติทั่วไปในบางช่วงน้ำ มันคือสะพานเชื่อมความเป็นมนุษย์ มีไว้เพื่อความสะดวกจะได้ไม่ต้องเปียกปอน หน้าน้ำหลากเชี่ยวจะได้ยังไปมาหากันได้ไม่ลำบาก เป็นอย่างนี้เรื่อยมาไม่เคยเป็นปัญหา
จนกระทั่งเสียงปืนเสียงระเบิดดังขึ้นนั่นเอง การข้ามแดนจึงกลายเป็นปัญหา สะพานกลายเป็นสิ่งรกหูรกตา
ทั้ง ๆ ที่จริงแล้ว หากมองจากอีกมุมหนึ่ง ยิ่งมีเสียงปืน เสียงระเบิด เสียงเด็กร้องไห้ขวัญผวา เรายิ่งต้องการสะพานที่กว้างขึ้นและแข็งแรงขึ้น
เพื่อนไร้พรมแดนไม่อาจยืนยันได้ว่า ภาพเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ทหารกำลังทำลายสะพานข้ามแม่น้ำเมยซึ่งเผยแพร่โดย Fortify Rights นั้นเกิดขึ้นเมื่อใด ก่อนหรือหลังมีการอพยพหลบหนีสงคราม และกระทำด้วยเหตุผลอะไร เนื่องจากไม่ใช่ผู้ที่รับภาพมาจากผู้ถ่ายโดยตรง
หากเราสามารถกล่าวได้ว่า คำปฏิเสธของกองทัพภาคที่สามว่าสะพานดังกล่าวเป็นเส้นทางลำเลียงสิ่ง “ผิดกฎหมาย” นั้น สมควรจะต้องมีการชี้แจงเพิ่มเติม เนื่องจากเป็นการให้ร้ายชาวบ้านชาติพันธุ์ท้องถิ่น ที่ถูกสร้างภาพเหมารวมให้ “ผิด” และเป็น “ภัย” ตลอดมา
สิ่งผิดกฎหมายนั้นคืออะไร ข้าวสาร ข้าวโพด เกลือ ผงชูรส ขันน้ำ หมาก ยาสูบ ?? หรือสิ่งใด
นอกจากนี้ เรายังสามารถกล่าวได้ว่า พฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ที่ตวาดด้วยความหยาบคาย และข่มขู่ว่าจะเอาชีวิตผู้ถ่ายวิดีโอนั้น คงชี้ให้เห็นได้ดีว่า เจ้าหน้าที่เองมองการกระทำของตนว่าอย่างไร
หากการทำลายสะพาน เป็นไปอย่างงดงามตามหลักการทั้งความมั่นคงของชาติและความมั่นคงของมนุษย์ รวมถึงหลักมนุษยธรรมแล้ว ไม่มีเหตุผลอันใดเลยที่จะต้องโกรธเกรี้ยวกับการถ่ายวิดีโอ
ทำลายสะพานเชื่อม สร้างรั้วลวดหนามกั้น เพื่ออะไร เราไม่มีคำตอบ แต่เราเข้าใจดีว่า คนถ่ายวิดีโอนั้นถ่ายเพราะอะไร
7 พฤษภาคม 2565
หมายเหตุ
1. อีกเหตุผลหนึ่งของเจ้าหน้าที่ในการทำลายสะพานคือ การป้องกันการแพร่ระบาดโควิด 19 ตามนโยบายจังหวัด กรณีนี้ชาวบ้านท้องถิ่นเองเข้าใจได้ว่า โควิดไม่จำเป็นต้องข้ามมาทางสะพาน
2. วิดีโอของ Fortify Rights
3. ภาพประกอบ แม่น้ำเมย คนอพยพ ชีวิตปกติริมขอบแดน และรั้วลวดหนามที่กั้นแม่น้ำไว้บางช่วง โดย ชาวบ้านลุ่มน้ำเมย