การโจมตีทางอากาศยังไม่จบสิ้น ภารกิจความเป็นมนุษย์ยังต้องดำเนินอยู่
หลังการโจมตีทางอากาศเมื่อวาน (28 เม.ย.) ที่บ้านบืออาเดอ และฐานดาร์กวิน ตรงข้ามบ้านท่าตาฝั่ง เช้าวันนี้ เครื่องบินรบจากฐานทัพพม่าที่ตองอูก็บินกลับมาทิ้งระเบิดโจมตีบริเวณตรงข้ามบ้านท่าตาฝั่งอีกครั้งอย่างหนักหน่วง
ผู้ลี้ภัยที่ถูกผลักดันกลับไปจากประเทศไทย กำลังตกอยู่ในอันตรายอย่างใหญ่หลวง นับตั้งแต่เสียงเครื่องบินลำแรกมาถึงเช้านี้ ไม่มีใครอาศัยอยู่ในบ้านและในหมู่บ้านตนเอง ในสถานการณ์คับขันอย่างที่สุด รายงานความสูญเสียยังเดินทางมาไม่ถึงเมือง สัญญาณโทรศัพท์ถูกตัดขาด
ผู้ที่ได้ดูรายงานข่าวเมื่อวาน ที่สัมภาษณ์ชาวบ้านหญิงฝั่งไทยที่อุ้มลูกวิ่งหนีเท้าเปล่าออกจากบ้านทันทีที่ได้ยินเสียงปืน ก็อาจจินตนาการได้ว่า ชาวบ้านที่กำลังหลบซ่อนอยู่ในรัฐกะเหรี่ยงจะหวาดกลัวมากกว่านั้นสักกี่เท่า เครื่องบินรบนั้นใช้เวลาเพียงพริบตาเดียวก็สามารถบินถึงจุดที่พวกเขาอยู่ได้แล้ว
ณ บัดนี้เสียงระเบิดยังไม่ขาดสาย เราคิดถึงชาวบ้านทุกคนที่ถูกผลักดันจากประเทศไทยที่กำลังหลบซ่อนอยู่ รวมถึงคนชราอายุร่วมร้อยที่เดินไม่ไหว ผู้หญิงท้องหลายสิบ เด็กเล็ก และทารกอายุไม่กี่วัน
ล่าสุด มีคนขอข้ามแม่น้ำสาละวินมาหลบภัยที่สบแงะ (จากชุมชนอีตู่ท่า) และท่าตาฝั่งกว่าร้อย ซึ่งเราก็ได้แต่หวังว่า พวกเขาจะได้รับการปฏิบัติเช่นเพื่อนมนุษย์ ดังที่ผวจ.แม่ฮ่องสอนได้ให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อวานนี้
เพราะที่น่าเจ็บปวดและน่าละอายที่สุดก็คือ คนจำนวนมากยังเลือกที่จะอกสั่นขวัญแขวนอยู่ในมื่อตรอ ไม่กล้าขอข้ามมาหลบอยู่บนแผ่นดินไทย เพราะพวกเขารู้ว่าทางการไทยจะไม่ต้อนรับเขา และจะ “ทำความเข้าใจ” หรือไล่เขากลับอีกในเร็ววัน
ภารกิจของกองทัพในการทำให้ไม่มีผู้ลี้ภัยใหม่ในประเทศไทยซึ่งประสบความสำเร็จอยู่นั้น ไม่มีความหมายอะไรเลยหากเราล้มเหลวในภารกิจของความเป็นมนุษย์
เมื่อผู้ลี้ภัยหมดหนทางไปจนต้องขอกลับเข้ามาแล้ว เราจะแก้ตัวใหม่หรือไม่
28 เมษายน 2564
ภาพประกอบ : ชาวบ้านกะเหรี่ยงที่ถูกผลักดันกลับ ถ่ายภาพโดยชาวบ้านสาละวิน