กลับชั่วคราว เพราะสงครามไม่ใช่เรื่องชั่วคราว

กลับชั่วคราว เพราะสงครามไม่ใช่เรื่องชั่วคราว

| | Share

กลับชั่วคราว เพราะสงครามไม่ใช่เรื่องชั่วคราว

ผู้ลี้ภัยจากหลายชุมชนทะยอยข้ามแดนกลับรัฐกะเหรี่ยงตั้งแต่วานก่อน หลังจากที่กองกำลังผสมที่พยายามบุกโจมตีโครงการเมืองจีนฉ่วยก๊กโก่ถอนกำลังออก ล่าสุด ทางการคงเหลือพื้นที่พักพิงไว้เพียง 3 แห่ง จาก 11 แห่งเดิม

อย่างไรก็ดี การสู้รบบนชายแดนรัฐกะเหรี่ยงไม่ได้ยุติ แนวปะทะและการถล่มพื้นที่ด้วยปืนใหญ่กับการทิ้งระเบิดจากเครื่องบิน เพียงโยกย้ายจากเส้นทางมุ่งสู่ฉ่วยก๊กโก่ลงไปทางใต้ในเขตจังหวัดดูปลายาแทน ดังนั้น เมื่อเจ้าหน้าที่ไทยพาผู้นำทหารจากรัฐกะเหรี่ยงเข้ามาเจรจาสร้างความเชื่อมั่น และผู้คนทางตอนเหนือก็ข้ามแม่น้ำเมยกลับไปแล้ว ชาวบ้านอีกกลุ่มทางตอนใต้ ก็ยังเดินหน้าอพยพออกจากพื้นที่ต่อเนื่อง 

ในแต่ละพื้นที่พักพิง ผู้คนไม่ได้มาจากชุมชนเดียวกัน ในจำนวนคนร่วมหมื่น ชาวบ้านมาจากอย่างน้อย 14 หมู่บ้านด้วยกัน และคนจากชุมชนหนึ่งก็จะกระจายไปตามพื้นที่พักพิงหลายแห่ง เพราะไม่ได้เดินทางข้ามมาในเวลาและจุดเดียวกัน 

ดังนั้น ในการปิดพื้นที่พักพิงแห่งหนึ่ง จึงมีทั้งชาวบ้านที่กลับคืนถิ่นฐานในชุมชนตนเองได้ และชาวบ้านที่พบว่าชุมชนตนยังไม่ปลอดภัยเพียงพอ หรือยังกลับไม่ได้ จึงกระจายตัวหายไปบนตะเข็บชายแดน

ตัวอย่างเช่นหมู่บ้านทีชารา จุดปะทะรุนแรงซึ่งอยู่ห่างจากพรมแดนไทยไปราว 7 กม.กว่าซึ่งมีบ้านเรือนถูกเผาไป 28 หลัง แม้การสู้รบจะเคลื่อนย้ายออกจากบริเวณไปแล้ว ชาวบ้านก็ยังไม่สามารถกลับไปสร้างบ้านใหม่บนซากปรักหักพังในขณะที่สงครามยังอยู่ห่างออกไปไม่เกินชั่วโมงเดินรถ

การรับมือกับการอพยพลี้ภัยของผู้คนจำนวนมากในช่วงต้นเมษายน 2566 ที่ผ่านมา นับว่ามีประสิทธิภาพกว่าเหตุการณ์ปลายปี 2564 ต่อปี 2565 มากพอสมควรด้วยหลายเหตุปัจจัย

และ ด้วยเหตุที่สงครามบนชายแดนไทย-พม่าจะยังไม่จบสิ้นในเร็ววัน จะดียิ่งไปกว่านั้น หากรัฐไทยมีนโยบายและมาตรการผู้ลี้ภัยที่ตอบโจทย์ทั้งด้านสิทธิมนุษยชนและความมั่นคงของมนุษย์อย่างชัดเจน เพื่อที่ว่า แม้เหตุปัจจัยที่เอื้ออำนวยต่อการรับมืออย่างมีประสิทธิภาพเปลี่ยนไป เราจะได้ไม่ต้องพายเรือวนอยู่ในอ่างดังเดิม

11 เมษายน 2566
ภาพประกอบ : ผู้ลี้ภัยเดินข้ามแม่น้ำเมยกลับรัฐกะเหรี่ยง โดย ชาวบ้านริมเมย

Related