ไม่มีผู้ลี้ภัยข้ามพรมแดน แต่ไม่ใช่ไม่มีผู้อพยพจากการถูกประหัตประหาร
วันศุกร์ที่ 2 เมษายน ไม่มีผู้ลี้ภัยพยายามข้ามพรมแดนมาฝั่งไทย หากก็ไม่อาจพิสูจน์ได้ว่าเป็นเพราะไม่มีความจำเป็น เนื่องจากกองทัพไทยได้เฝ้ารักษาความปลอดภัยบริเวณแม่น้ำสาละวินจนไม่มีผู้ใดกล้าฝ่าฝืนได้
จากรายงานข่าวของสื่อมวลชนทั่วไปก็ระบุถึงการมาออกันอยู่ริมขอบแดนของชาวบ้านหลายพันคน ที่หลบหนีการโจมตีทั้งด้วยเครื่องบินรบและปืนใหญ่ซึ่งเกิดขึ้นแม้หลังจากการประกาศหยุดยิงของกองทัพพม่าเมื่อ 1 เมษายน
ขณะที่เมื่อวานนี้ไม่มีการโจมตีในเขตมื่อตรอ ก็กลับมีการสู้รบและระดมยิงปืนใหญ่ในเขตของ KNU เขตกองพลที่ 1 จังหวัดดูเตอถู่ (ด้านรัฐมอญ) ซึ่งคาดว่าจะมีชาวบ้านต้องพลัดถิ่นฐานและหลบหนีอยู่ในป่า จังหวัดดูเตอถู่นี้ติดกับพะอัน ซึ่งติดประเทศไทย
ภาพแผนที่ด้านล่างซึ่งจัดทำโดยองค์กรสิ่งแวดล้อมของชาวกะเหรี่ยง อาจทำให้เรานึกภาพสถานที่ต่าง ๆ ออกมากขึ้น รูปเครื่องบินสีแดงนั้นแสดงให้เห็นจุดที่มีการโจมตีในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา จำนวนผู้เสียชีวิตโดยตรงจากการโจมตีนับจากวันที่ 27 มี.ค. คือ 19 คน หากเชื่อได้ว่า อาจมีผู้เสียชีวิตอันเป็นผลพวงจากเหตุการณ์จำนวนมากกว่านั้น ซึ่งรวมถึงการเสียชีวิตในพื้นที่โจมตีที่ยังไม่ได้รับการยืนยัน การเสียชีวิตด้วยความอดอยากและเจ็บป่วยในป่าขณะที่หลบซ่อนตัวอยู่ และไม่สามารถเข้าถึงอาหาร ยา หรือแพทย์พยาบาลได้
ผู้ลี้ภัยเพียงปรารถนาจะมาหลบภัยเพียงชั่วคราว แม้กระทั่งว่าหากการโจมตีโดยเครื่องบินหยุดไปได้ระยะหนึ่ง พวกเขาก็จะต้องการกลับถิ่นฐานไปเองแม้บางกลุ่มจะไม่ได้เข้าไปอยู่ในบ้านเนื่องจากยังกลัวปืนใหญ่ พวกเขายังมีไร่ นา สวน และสัตว์เลี้ยงอยู่ที่นั่น ที่สำคัญ รากเหง้า และสายสะดือของพวกเขายังผูกอยู่ติดกับป่าความเชื่อตามประเพณีที่นั่น
เพื่อนไร้พรมแดนมีความประสงค์เพียงยืนยันในมิตรภาพระหว่างประชาชนไทยและประชาชนพม่าหลากชาติพันธุ์ เราไม่ปรารถนาให้เพื่อนบ้านของเรามีความรู้สึกเจ็บปวด เคียดแค้น หวาดกลัวประเทศไทยและคนไทย
เราต่างต้องการชีวิตที่เสรีและสันติร่วมกัน การไม่มีคนข้ามพรมแดนมา หรือไม่กล้าส่งภาพถ่ายมา ไม่ได้หมายความว่าเราจะมองไม่เห็นพวกเขา
เราเห็นพี่น้องของเราอยู่เสมอ
3 มีนาคม 2564
ภาพประกอบ : แผนที่แสดงเขตพื้นที่ของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงและการโจมตีล่าสุด กับภาพผู้ลี้ภัยริมน้ำสาละวินก่อนถูกส่งกลับเมื่อ 29 มี.ค. ถ่ายโดยชาวบ้านสาละวิน
