แนวรบด้านตะวันตกที่ยังไม่เปลี่ยนแปลง 

แนวรบด้านตะวันตกที่ยังไม่เปลี่ยนแปลง 

| | Share

แนวรบด้านตะวันตกที่ยังไม่เปลี่ยนแปลง 

แม้ว่าผู้ลี้ภัยจะค่อย ๆ ทะยอยข้ามสาละวินกลับมื่อตรอ ไม่ว่าจะด้วยความเต็มใจหรือถูกกดดันก็ตาม พวกเขาก็ไม่ได้กลับไป “ใช้ชีวิตได้ตามปกติ” ในความหมายแบบที่เราเข้าใจ  

การโจมตีทางอากาศล่าสุดนั้นห่างไปเมื่อ 8 วันก่อน (8 พ.ค.)  แต่การปะทะและการระดมยิงปืนใหญ่เข้าหมู่บ้านยังเกิดอยู่เนือง ๆ  เมื่อวันที่ 13 พ.ค. การยิงปะทะกันด้วยความเข้าใจผิดระหว่างทหารพม่ากับกองกำลังพิทักษ์ชายแดน (BGF) ซึ่งที่จริงแล้วถูกเรียกมาเสริมกำลังกัน นอกจากจะทำให้ทหารเสียชีวิตรวม 15 คนแล้ว ยังมีชาวบ้านเสียชีวิตด้วยอีก 3 คน

จากคำบอกเล่าของซอ มอท ช่างภาพอิสระชาวกะเหรี่ยงซึ่งเดินทางท่องมื่อตรอในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ผู้คนที่นั่นไม่หวังอะไรอื่นนอกเหนือจาก “ขอให้ทหารพม่าออกไปจากพื้นที่” 

“ทุกครอบครัวที่นั่นจะต้องมีสมาชิกที่ตายในสงครามอย่างน้อย 2-3 คน ผมหมายถึงคนที่เป็นพลเรือน ไม่ได้นับคนที่ไปเป็นทหาร เด็ก ๆ คุ้นชินกับการที่ต้องตามพ่อแม่ไปหลบในป่า เรียนหนังสือในป่า สอบในป่า พ่อแม่ของพวกเขาอาจจะแอบกลับไปดูแลสัตว์เลี้ยงบ้าง ถ้าดีขึ้นก็อาจจะกลับไปอยู่ในหมู่บ้านบ้าง”

การแอบกลับไปดูแลสัตว์เลี้ยงหรือทรัพย์สิน คือความเสี่ยงที่ชาวบ้านอาจถูกยิงระหว่างทาง ในบ้านตนเอง หรืออย่างล่าสุดที่ถูกระเบิดถล่มจากเครื่องบินลงมาพอดีเมื่อปลายมี.ค. 

บางชุมชนที่ซอ มอทไปเยือน ฐานทัพพม่าที่อยู่ใกล้ ๆ จะเฝ้ายิงปืนใหญ่เข้าสู่หมู่บ้านและไร่นา จนชาวบ้านไม่สามารถเริ่มฤดูกาลเพาะปลูก  

“ที่ชุมชนหนึ่ง อยู่ห่างจากฐานทหารพม่านิดหน่อย คนเลยยังอยู่ที่บ้านได้ ไม่ต้องไปหลบในป่าตลอด แต่ทุก ๆ ครอบครัวที่นั่นจะมีบังเกอร์สำหรับหลบภัยของตัวเองกันหมด เด็ก ๆ ก็เล่นกันอยู่ในนั้น  พวกเขาโตขึ้นมาแบบนั้น  ชินกับการหนี ชินกับความกลัว”

“ตอนที่ผมอยู่กับกลุ่มผู้พลัดถิ่นในป่า ทหารพม่ายิงปืนใหญ่เข้ามา มันไม่ได้ใกล้พวกเรามากหรอก แต่ทุกคนรวมทั้งผม ก็หนีกันหัวซุกหัวซุน  พอเหตุการณ์สงบ ผมคุยกับชาวบ้าน  ทุกคนก็บอกว่ากลัว แต่เขาหัวเราะ เขายิ้มแฉ่ง  บางทีมันอาจจะเป็นวิถีกะเหรี่ยงที่จะต้องยิ้มกับมันให้ได้ เป็นวิถีที่ทำให้เราอยู่รอด”

ก่อนออกจากมื่อตรอ  ซอ มอทเห็นชาวบ้านใกล้เดปู่โน่เริ่มสร้างบังเกอร์เพราะมีข่าวว่าจะมีการโจมตีหนัก  ตอนนั้นเขายังไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นจริง   ในป่า เขาไม่สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตและรับรู้ข่าวสารเกี่ยวกับการปราบปรามกลุ่ม CDM หรือผู้เรียกร้องประชาธิปไตยในเมืองเสียด้วยซ้ำ

“พอผมออกมาจากพื้นที่ เครื่องบินก็ทิ้งระเบิด ผมนึกถึงชาวบ้านที่นั่นทันที  ผมนึกถึงสิ่งที่เขาพูด ไม่ว่าใคร  เขาก็แค่อยากได้อยู่อย่างเดียว ขอแต่เพียงอย่างเดียว ขอให้ทหารพม่ากลับออกไปเถอะ แล้วเขาจะไม่ขออะไรอีก ไม่มาขอลี้ภัย ไม่ต้องไปช่วยเหลือส่งอะไรไปให้ ทุกอย่าง เขาบอกว่าเขาอยู่ได้ สร้างด้วยตัวเองได้ ขอแค่ทหารพม่าออกไป”

(บันทึกไว้เมื่อ 29 มีนาคม 2564)

ภาพประกอบ เด็ก ๆ จากชุมชนเลอมูปลอ จังหวัดมื่อตรอ และเถียงนา ซึ่งมองออกไปเห็นเนินเขาใกล้ ๆ ซึ่งมีฐานทัพพม่าตั้งอยู่  ภาพโดย ซอ มอท

Related