เวลาคุณเห็นภาพคนหนีภัยปักหลักที่ริมฝั่งแม่น้ำ คุณคิดถึงอะไร

เวลาคุณเห็นภาพคนหนีภัยปักหลักที่ริมฝั่งแม่น้ำ คุณคิดถึงอะไร

| | Share

เวลาคุณเห็นภาพคนหนีภัยปักหลักที่ริมฝั่งแม่น้ำ คุณคิดถึงอะไร

การข้ามมาลี้ภัยในประเทศเพื่อนบ้านที่มีเพียงสายน้ำกั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ภาพของชาวบ้านรัฐกะเหรี่ยงที่ปักหลักอยู่ริมฝั่งน้ำ จึงเป็นที่พบเห็นได้ตั้งแต่สาละวินในช่วงแล้งที่แล้ว จนถึงแม่น้ำเมยช่วงแม่สอดซึ่งยังมีการสู้รบอยู่ไม่เว้นแต่ละวัน การอยู่ริมฝั่งน้ำซึ่งคือเส้นขอบแดนหมายความว่า เมื่อเสียงปืนหรือระเบิดดังขึ้นใกล้ตัว ก็จะสามารถลงเรือข้ามน้ำมาได้ทันที และรอดชีวิต

ปลายเดือนธันวาคม ชาวบ้านหมู่บ้านเซ่บอโบ เคยหนีเข้ามาหลบกระสุนปืนใหญ่ของกองทัพพม่าเข้าที่หมู่บ้านหมื่นฤาชัย อ.พบพระ จ.ตาก และก็ย้อนกลับไปในอีกไม่กี่วันถัดมา 

“เจ้าหน้าที่ไล่กลับก็ไม่ใช่หรอกนะ แต่เขามาเมื่อไรก็ถามทุกครั้งว่า จะกลับมั้ย จะกลับรึยัง เดี๋ยวจะส่งให้ ถามมาแบบนี้ตลอดจนครูเขาอยู่ไม่ไหวต้องพานักเรียนกลับ  พอกลับไป เจ้าหน้าที่ไทยก็มาบอกว่า นี่ไม่ได้ไล่นะ กลับไปเองนะ ไม่ได้ไล่ก็ใช่ แต่มันก็กดดัน ใครจะกล้าอยู่”

ชาวบ้านที่ออกันอยู่ที่ริมฝั่งนำ้เมยหลายร้อยคนขณะนี้ ไม่ได้มีแต่คนเซ่บอโบ หากเป็นผู้คนที่หนีภัยสงครามมาจากหมู่บ้านอื่น ขณะที่คนเซ่บอโบส่วนหนึ่งก็อพยพมานอนริมฝั่งน้ำหรือต้นไม้ และใต้ถุนบ้าน เพราะมีข่าวว่าอาจมีการปะทะกันระหว่างกองทัพพม่าและ KNU ที่ตั้งฐานอยู่ไม่ไกลกันนัก  บางคนแอบส่งข้าวสารและทรัพย์สินฝากญาติพี่น้องฝั่งไทยไว้นานแล้ว เพื่อให้มั่นใจว่ามันจะไม่ถูกกองทัพพม่าเผาทำลายไปหมด 

แม่น้ำเมยที่หมื่นฤาชัย-เซ่บอโบไม่กว้างนัก ยืนมองเห็นกันได้ แต่เอื้อมหากันไม่ได้ ชาวบ้านกะเหรี่ยงบ้านหมื่นฤาชัยจำนวนไม่น้อยที่ไปทำกินในฝั่งรัฐกะเหรี่ยง ก็ได้แต่คิดถึงผลผลิตของพวกเขาที่อยู่ในเซ่บอโบที่ยังขนข้ามมาขายเป็นเงินเลี้ยงครอบครัวไม่ได้ เพราะด่านปิด

เช้าวันที่ 15 ม.ค. เสียงปืนยังเงียบอยู่ มีแต่ควันหุงข้าวต้มแกงริมฝั่งน้ำรัฐกะเหรี่ยง 

เวลาคุณเห็นภาพคนหนีภัยปักหลักที่ริมฝั่งแม่น้ำ คุณคิดอย่างไร

15 ม.ค. 2565

Related