ความผิดปกติของความปกติ

ความผิดปกติของความปกติ

| | Share

ความผิดปกติของความปกติ

กฤษณ์พชร โสมณวัตร 

คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

หนึ่งใน “เสียง” ที่ร่วมออกอากาศเป็นเวลากว่า 5 ชั่วโมงของวันผู้ลี้ภัยโลก

“สิ่งที่ผมอยากจะพูดวันนี้ คือความผิดปกติของความปกติที่เรายอมรับกัน โดยที่ไม่ได้ตั้งคำถามกับมันอย่างจริงจัง

“ในปริมณฑลของความรู้ที่ผมพออาจพูดได้ คือทางด้านประวัติศาสตร์และด้านของกฎหมาย  เราสามารถเขียนประวัติศาสตร์ไทยและประวัติศาสตร์โลกในมุมของผู้ลี้ภัยได้ทั้งสิ้น  จริง ๆ แล้วภูมิภาคและประเทศของเรามีความคุ้นเคยกับคนข้ามแดน คนที่ย้ายถิ่นมาเพราะภัยพิบัติต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นภัยธรรมชาติ ภัยการเมือง หรือภัยเศรษฐกิจ มาตลอดอยู่แล้ว 

“บทเรียนของคนจีน อินเดีย หรือเวียดนามในประเทศไทย แสดงให้เห็นชัดเจนพอสมควรแล้วว่า ไม่มีใครต้องการใช้ชีวิตอย่างเป็นภาระของผู้อื่น ถ้าเขามีโอกาสดูแลตัวเองได้ เขาก็จะสามารถสร้างเนื้อสร้างตัวได้ และกลายเป็นคนไทยได้

“การที่เรายังกีดกันผู้ลี้ภัยในหลาย ๆ เรื่องทำให้ผมรู้สึกว่า เราไม่ได้เรียนรู้อะไรจากประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นของไทย หรือของโลกเลยก็ตาม 

“ในมุมมองของนักกฏหมาย ความผิดปกติของความปกติอีกอย่างหนึ่ง ผมจะยกตัวอย่างคือ โดยปกติแล้วตัวกฎหมายจะเปิดโอกาสให้มีสภาวะยกเว้นในกรณีจำเป็น หรือกรณีที่มีภาวะอันไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้อยู่เสมอ  เช่น เมื่อบุคคลอยู่ในภาวะของความจำยอม ถูกบังคับให้กระทำ  แม้แต่กฎหมายอาญา ซึ่งเกี่ยวข้องกับความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนโดยตรง ก็ยังมีข้อยกเว้นให้เกิดทางออกอื่น ๆ ได้

“สถานการณ์ของผู้ลี้ภัยก็คือ คนเหล่านี้เข้ามาในประเทศไทยด้วยความจำยอม  เขาเข้ามาในประเทศไทยเพราะว่าบ้านเขาไฟไหม้ มันมีความไม่สงบ มีความไม่ปลอดภัยในชีวิต  ถ้าเราจะบอกว่า คนเหล่านี้กระทำความผิดฐานเกี่ยวกับกฎหมายคนเข้าเมือง  ผมจะถามว่าเขาทำโดยจำเป็นหรือเปล่า  ถ้าถูกบังคับ เขาไม่ได้อยากมา เราก็ไม่ควรจะเอาโทษและเอาผิดเขา

“นี่เป็นอุทาหรณ์ที่ผมอยากจะยกไว้ว่า โดยปกติแล้ว ตัวกฎหมายอนุญาตให้มีสภาวะยกเว้นอยู่ในเรื่องต่าง ๆ มากมาย แต่เงื่อนไขและการตีความสำหรับกฎหมายคนเข้าเมืองและเรื่องของผู้ลี้ภัย กลับปฏิเสธที่จะใช้เหตุและผลในการพิจารณาเรื่องนี้อย่างจริงจัง ดังที่อาจารย์ธงชัย วินิจจะกูลบอกไว้ว่า สภาวะยกเว้นของประเทศไทย นิติรัฐอภิสิทธิ์และราชนิติธรรม ได้้ถูกใช้กับชนชั้นนำเท่านั้น 

“สิ่งที่ผมอยากสรุปไว้ตรงนี้ก็คือ เราไม่ได้เรียนรู้อะไรจากประวัติศาสตร์ เราไม่ได้เรียนรู้อะไรจากกฎหมาย

“ในทัศนะของผม ทางออกของปัญหาผู้ลี้ภัยคือต้องมีประชาธิปไตย  ประชาธิปไตยดังกล่าว ต้องเป็นประชาธิปไตยที่ให้ความสำคัญกับความเสมอภาค ไม่ว่าคนคนนั้นจะมีเชื้อสายไทยหรือสัญชาติไทย หรือไม่ก็ตามตราบใดที่เขามีส่วนได้เสีย เขาก็ควรจะมีสิทธิ์และมีอำนาจในการกำหนดอนาคตตัวเอง 

“ประชาธิปไตยไม่ใช่สิ่งที่ควรถูกนำมาใช้เพื่อแบ่งเขา หรือแบ่งเรา แต่ต้องถูกเอามาใช้เพื่อให้ทุกคนสามารถแสดงออก รักษาสิทธิประโยชน์ ผลประโยชน์  และความมั่นคงปลอดภัยของตน โดยไม่แบ่งเขาแบ่งเรา”

Related